“ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป” ไตรมาส 3/61 กำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท เติบโต 15% จากงวดปีก่อน หนุน 9 เดือนกำไรสุทธิทะลุ 5 พันล้านบาท
รายได้ธุรกิจหลักโต กำไรเงินลงทุนหนุน
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2561 มีกำไรสุทธิ 1,814.85 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.27 บาท เพิ่มขึ้น 15.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,572.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.96 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 5,290.10 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.61 บาท เพิ่มขึ้น 15.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,568.26 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 5.71 บาท
ไตรมาส 3/61 บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจหลักและรับรู้กำไรพิเศษจากเงินลงทุนและการขายธุรกิจ โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 12.2% จากความสามารถในการรักษาอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวมและการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 9% ซึ่งในไตรมาสนี้บริษัทมีกำไรจากเงินลงทุน 229 ล้านบาทและมีกำไรจากการขายธุรกิจบัตรเครดิต 211 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามดีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักปรับตัวลดลง 3.1% จากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจลดลง
ส่วนงวด 9 เดือน รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 14.9% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 6.2% จากทุภกาคธุรกิจ รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 9% จากการเติบโตของธุรกิจนายหน้าประกันภัย รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่ม 11.7% และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนยังเติบโต 15.6% ประกอบกับรับรู้กำไรเงินลงทุนและขายธุรกิจบัตรเครดิต อย่างไรก็ดีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น 17.4% จากการตั้งสำรองหนี้สูญให้แก่สินเชื่อที่เพิ่มขึ้น
ณ ไตรมาส 3/61 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมคงที่อยู่ที่ 2.70% จากไตรมาสก่อนหน้า
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ในไตรมาสนี้ ผลกำไรเติบโตจากรายได้จากธุรกิจหลัก ทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัย (Bancassurance) และค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุน ประกอบกับมีการรับรู้รายได้พิเศษระหว่างไตรมาส ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 9.0% ขณะเดียวกันยังมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 22.6% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 สูงถึง 17.6%
ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 กลุ่มทิสโก้ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเน้นการให้บริการอย่างผู้เชี่ยวชาญและให้คำแนะนำที่ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ Market Conduct ของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงเน้นประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายใต้การบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น