HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 9 จุด หลังจากร่วงกว่า 460 จุดในระหว่างวัน คาดการณ์ผลประกอบการไม่สดใสของไมโครซอฟต์และการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเกิดภาวะ inverted วิตกมากขึ้นเศรษฐกิจจะถดถอย ราคาน้ำมันดิบทรงตัว ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 25 มกราคม 2566 ปิดที่ 33,743.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.88 จุด หรือ 0.03% หลังจากที่ร่วงไปกว่า 460 จุดระหว่างวันปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม จากการคาดการณ์ผลประกอบการที่ไม่สดใสของไมโครซอฟต์และการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน บวกกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเกิดภาวะ inversionทำให้วิตกมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,016.22 จุด ลดลง 0.73 จุด, -0.02%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,313.36 จุด ลดลง 20.91 จุด, -0.18%
ดัชนี Nasdaq ปิดลบเป็นวันที่สอง จากนักลงทุนวิเคราะห์ผลการดำเนินงานล่าสุดของบริษัทจดทะเบียนและประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยสูงและความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือนและอายุ 10 ปี เข้าใกล้กันมากขึ้นแต่ยังคง inverted ที่ -123.5 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซบเซาตลอดทั้งวันหลังไมโครซอฟต์คาดการณ์รายได้ลดลง ทำให้วิตกต่อแนวโน้มการเติบโต หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.6%
หุ้นโบอิ้งปิดบวก แม้รายได้และกำไรต่ำกว่าคาด
อดัม ซาร์ฮัน ซีอีโอ 50 Park Investments กล่าวว่า นักลงทุนซื้อหุ้นเพราะคาดหวังผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด แต่เท่าที่รายงานเข้ามาได้กลบความหวังนั้นเพราะหลายบริษัทคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่ไม่สดใส
นักลงทุนรอการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ในสัปดาห์นี้
จนถึงขณะนี้มีกว่า 19% ของบริษัทใน S&P 500 ที่รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสสี่ ซึ่ง 68% มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด
อย่างไรก็ตามดัชนีหลายตัวฟื้นตัวจากที่ร่วงลงไปบ่งชี้ว่านักลงทุนมองว่า ผลการดำเนินงานที่อ่อนตัว และอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยและอาจจะลดดอกเบี้ยในที่สุด
FedWatch Tool ของCME บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 98.1% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งลดลงจาก 99.8% ในต้นสัปดาห์
นักลงทุนจับตาการรายงานประมาณผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ลดลง 0.9% แม้ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเยอรมนีที่ดีขึ้น แต่นักลงทุนยังเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงาน และยังวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมกราคมปรับตัวขึ้นมาที่ 90.2 จุดจาก 88.6 จุด
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 452.07 จุด ลดลง 1.31 จุด, -0.29%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,744.87 จุด ลดลง 12.49 จุด, -0.16%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,043.88 จุด ลดลง 6.60 จุด,-0.09%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,081.64 จุด ลดลง 11.47 จุด, -0.08%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 80.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 86.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล