HoonSmart.com>>บล.ทรีนีตี้มองตลาดคริปโตฯฝ่าผ่านมรสุมลูกใหญ่ FED ขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงปี 65 ทำเงินไหลออก BTC หลุดไฮ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ วูบแตะต่ำสุด 15,500 ดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อพ.ย.65 ชี้แนวโน้มตลาดคริปโตฯปี 66 มีโอกาสฟื้นตัว เหตุ FED ชะลอขึ้นดอกเบี้ย จับตาปัจจัยสำคัญหากนโยบาย FED กลับทิศทางดอกเบี้ยเป็นเริ่มปรับลดลงจะเป็นบวกหนุนตลาดคริปโตฯ
นายทิวัตถ์ ชุติภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวถึงภาวการณ์ซื้อขายในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีระบุว่า หลังจากราคาบิตคอยน์ หรือ BTC ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อ 1 บิตคอยน์ เมื่อเดือน พ.ย.64 หลังจากนั้นตลาดคริปโตฯพลิกกลับเป็นขาลงเนื่องจากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นในปี 65 ที่ผ่านมา ราคา BTC ลดลงแรงในช่วงมี.ค.65 ลงมาเหลือ 45,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
หลังจากนั้นเกิดปัจจัยลบคือ FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงและต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่พ.ค.65 ทำให้เม็ดเงินในตลาดคริปโตฯถูกถอนไปหาผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการที่ FED ลดงบดุล ดึงเม็ดเงินออกจากตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ประกอบกับเกิดวิกฤติการณ์ LUNAR Crash มูลค่าเหรียญ Lunar ลดลงถึง 99.99% ซึ่ง Lunar มีมูลค่าติด 1 ใน 10 อันดับเหรียญที่มูลค่าสูงสุดจึงกระทบต่อการลงทุนในตลาดคริปโตฯอย่างมาก
ในครึ่งปีหลังตลาดคริปโตฯเป็นภาวะตลาดหมีต่อเนื่อง ราคา BTC ลงไปต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยลงไปต่ำสุดที่ 15,500 ดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนพ.ย. 65 ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาเหนือระดับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯได้อีกในปีนี้ ถึงแม้ตลาดคริปโตฯโดยรวมจะลดลงไป 50-60% แต่เทคโนโลยีต่างๆยังคงมีการใช้งานอยู่ มีการเกิดขึ้นของเหรียญสกุลใหม่ๆมากมาย ทำให้สัดส่วนการมีอิทธิพลชี้นำตลาดของ BTC ลดลงจาก 60% เหลือ 40% ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม BTC และ ETH ยังเป็นตัวหลักในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
ในปีนี้ FED มีโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อาจจะคงดอกเบี้ยในระดับนี้ต่อไปอีกระยะ แต่หากเมื่อไรที่นโยบายเปลี่ยนทิศทางเป็นการลดดอกเบี้ยก็จะเป็นโอกาสที่ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดคริปโตฯกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง นักวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศคาดการณ์ว่าจากระดับปัจจุบันราคา BTC ที่ประมาณ 23,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีโอกาสขึ้นไปได้ถึง 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนปัจจัยเสี่ยงต้องติดตามความเคลื่อนไหวในตลาดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลว่าจะมีเหตุการณ์ปิดตัวเพิ่มขึ้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบที่กระทบต่อตลาดคริปโตฯอย่างรุนแรง
#Cryptocurrency #BTC #บล.ทรีนีตี้