“ไรมอนแลนด์” ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ จับตาวาระสำคัญเพิ่มทุนขายบริษัทย่อย KPNL ลือศึกสายเลือด’ณรงค์เดช’ประทุ!
บริษัทไรมอนแลนด์ (RML)นัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 11 ต.ค.2561 ในเวลาประมาณ 14.00 น.ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ โฮเทล สาทร เพื่อพิจารณาวาระสำคัญ เสนอให้ที่ประชุมอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน ขายให้กับบริษัทย่อยของบริษัท เคพีเอ็นแลนด์ (KPNL)ของครอบครัวณรงค์เดช จำนวน 597 ล้านหุ้นหรือ 14.31% ของทุนชำระแล้ว ในราคาหุ้นละ 1.80 บาท รวมเป็นเงิน 1,074.6 ล้านบาท และชำระเป็นเงินสดอีก 500 ล้านบาท เพื่อแลกกับการซื้อโครงการที่รอการพัฒนา จำนวน 2 โครงการ บนถนนสุขุมวิท ซอย 19 และ 28 มูลค่ารวม 1,574.6 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯ จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้บอร์ด RML ยังอนุมัติให้ซื้อห้องชุดที่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 107 ห้อง ในโครงการ The Diplomat 39 และห้องชุดที่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ 9 ห้องในโครงการ The Diplomat Sathorn จาก KPNL มูลค่าประมาณ 1,868.83 ล้านบาทด้วย โดยชำระด้วยเงินสด 1,000 ล้านบาท และรับผิดชอบชำระหนี้ของโครงการดังกล่าวจำนวน 868.83 ล้านบาท
แต่การซื้อทรัพย์สินขนาดใหญ่ มูลค่าสูงถึง 3,443 ล้านบาท ไม่ใช่ประเด็น..
ปัญหาเกิดขึ้นจากการประชุมผู้ถือหุ้นของ KPNL ซึ่งจะต้องอนุมัติการขายทรัพย์สินมูลค่าเกือบ 4,000 ล้านบาท ให้กับบริษัทไรมอนแลนด์ครั้งนี้ กลับมีกระแสข่าวว่า นายณพ ณรงค์เดช หนึ่งในผู้ถือหุ้นของ KPNL ไม่พอใจกับการเรียกประชุมขอมติจากผู้ถือหุ้นแบบจู่โจมไม่ทันตั้งตัว ไม่ส่งเอกสารล่วงหน้า และใช้เวลาประชุมแค่ 20 นาที ก็ลงมติ โดยผู้บริหาร KPNL ตัดบทไม่อธิบายเหตุผลในการขาย และไม่ฟังเสียงคัดค้านจากที่ประชุมแต่อย่างใด
การกระทำของกรรมการ KPNL และ บริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KPNL อาจเข้าข่ายเป็นกรรมการผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สิน กระทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353
สำหรับ บริษัท KPNL ประกอบด้วย กรรมการ 4 คน คือ นาย กฤษณ์ ณรงค์เดช นายกรณ์ ณรงค์เดช นาย ระวี ธาตุนิยม และนายธีรศักดิ์ ปัสสารี ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้ง ถือทั้งหมด 100% ที่เหลือมีนายกฤษณ์ นายกรณ์ นายเกษม และนายณพ ถือคนละ 1 หุ้น ขณะที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ เคพีเอ็น โฮลดิ้ง มีนายกฤษณ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด จำนวน 38% ส่วนนายณพ และนายกรณ์ ถือหุ้นเท่ากัน คนละ 28.50% และนายเกษม ถือสัดส่วน 5%
หากมีกระแสความขัดแย้งเกิดขึ้นเช่นนี้ ทางฝั่งผู้ขายทรัพย์สิน KPNL ยังเคลียร์กันไม่ลงตัว สุ่มเสี่ยงไปในทางที่ผิดกฎหมายอาญา มาตรา 353 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญ ที่จะทำให้การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ RML ในวันนี้ ไม่ราบรื่นเหมือนการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทส่วนมากที่ผ่านมา จึงจะต้องติดตามการประชุมในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด….