HoonSmart.com>>”เคที เมดิคอล เซอร์วิส “หนึ่งในผู้นำให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร พร้อมเข้าเทรด mai ปลายปี 65 เตรียมเสนอขาย 76.64 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท 3 โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสม 4-4.12 บาท ระดมทุนเพิ่มศักยภาพธุรกิจ นัดโรดโชว์นักลงทุน 21 พ.ย. สร้างความเชื่อมั่น หุ้นเติบโตสม่ำเสมอ ชูจุดเด่นผู้ป่วยเพิ่มทุกปี 30% ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก หนี้ต่ำ D/E เพียง 0.7เท่า
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส (KTMS) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจรรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมี 3 บริษัทย่อย เป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ และการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนผู้ป่วยโรคไตตั้งแต่ระยะที่ 1-5 และเรื้องรัง 1-1.5 หมื่นคน/ปี ธุรกิจเพิ่มขึ้น 30% ต่อปี
ปัจจุบันบริษัทฯมีหน่วยไตเทียมครอบคลุมทั่วประเทศ โดยผ่านการสนับสนุนจากโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ อาทิ โครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนงบบริการผู้ป่วยเรื้อรังจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่สนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ที่มีสิทธิทุกรายสามารถร่วมตัดสินใจเลือกวิธีการล้างไต เป็นแบบฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมร่วมกับแพทย์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีจำนวนผู้ป่วยใช้บริการกับกลุ่มบริษัทฯมากยิ่งขึ้น
“บริษัทก้าวขึ้นสู่ผู้นำที่ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพียงไม่กี่รายที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งมีการต่อสัญญาการให้บริการมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 5 ปี รวมถึงบริษัทย่อยที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ และระบบบำบัดน้ำเสีย สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม มามากกว่า 20 ปี จึงทำให้กลุ่มบริษัทฯสามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีคุณภาพ เป็นไปตามมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล”นางสาวกาญจนากล่าว
นายศุภณัฐ พร้อมศิริพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน KTMS กล่าวว่า ในช่วงปี 2562-2564 และงวด 9 เดือนปี 2565 ทางกลุ่มบริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการ 182.64 ล้านบาท 212.54 ล้านบาท 310.30 ล้านบาท และ 277.32 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีรายได้หลักมาจากการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จากการขยายสาขาจาก 7 สาขา 14 สาขาและ 18 สาขา ส่วนงวด 9 เดือนปีนี้เพิ่มเป็น 20 สาขา โดยมีเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้น 26 เครื่องเป็น 254 เครื่อง ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2562-2564 และงวด 9 เดือนปี 2565 อยู่ที่ 0.56 ล้านบาท, ขาดทุนสุทธิ 26.62 ล้านบาท 16.80 ล้านบาท และ 15.66 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนอัตรากำไรสุทธิ 0.29%, ลดลง 12.52%, 5.41% และ 5.65% ตามลำดับ
KTMS จะเพิ่มศักยภาพด้านการบริการที่จะดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยเม็ดเงินที่ระดมทุนครั้งนี้ นำไปใช้ลงทุนในสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมถึงโครงการลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม ศูนย์บริการวิศวกรรม และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมศักยภาพความแข็งแกร่งด้านการบริการได้อย่างครบวงจรมีคุณภาพมาตรฐานระดับสากลบริษัทฯมีโอกาสนำเครื่องมือทางการเงินจากแหล่งทุนมาต่อยอดทางธุรกิจในอนาคตได้ ปัจจุบันมีหนี้ต่ำ คิดเปฌน D/E เพียง 0.7 เท่าเท่านั้น
“การดำเนินงานของบริษัทเพิ่งมีกำไรและกำไรไม่มาก เนื่องจากหน่วยไตเพิ่งเริ่มให้บริการๆไม่นาน จากนี้ไปเริ่มมี Economy of scale บริษัทจะมีความมั่นคงของรายได้สูง เมื่อถึงเวลา ต้องฟอกเลือดเป็นประจำ 2-3 ครั้ง/ สัปดาห์ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร เป็นธุรกิจส่วนน้อยมากที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยนอกเลย และยังมีโอกาสการเติบโตใน 3-5 ปีอีกมาก ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์เพียง 1.4% ส่วนความเสี่ยงเรื่องบุคคลากร ทางบริษัทมีวิธีการรับมือ ในการรับพยาบาลที่เรียนเฉพาะทาง จบแล้วให้มาทำงานด้วย และสร้างศูนย์อบรม สร้างบุคคลากรที่มีคุณภาพ”นายศุภณัฐกล่าว
ขณะที่ นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เคที เมดิคอล เซอร์วิส กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้นับ 1 ไฟลิ่ง KTMS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะนำเสนอข้อมูลนักลงทุน(โรดโชว์) ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้กลุ่มนักลงทุนได้มีโอกาสทราบถึงข้อมูลและทิศทางธุรกิจ ก่อนที่จะมีการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) ภายในสิ้นปี 2565 อย่างแน่นอน
KTMS มีแผนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 76.64 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยการตั้งราคาจะให้ส่วนลดจากที่นักวิเคราะห์ให้มูลค่าเหมาะสม บล.โกลเบล็กประเมินราคาเหมาะสมในปี 2566 ที่ 4.12 บาทต่อหุ้น ส่วนบล.พายและเอเชียเวลท์ให้มูลค่า 4 บาท/หุ้น
” KTMS ถือเป็นหุ้นเติบโตสูง รายได้ย้อนหลัง 3 ปี โตเฉลี่ย 30.73% ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งของธุรกิจ การฟอกไต ผู้ป่วยต้องทำตลอดชีวิตและจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปีละ 15% ได้กระแสเงินสดเข้ามาสม่ำเสมอ ธุรกิจคล้ายธุรกิจโรงแรม ที่มียอดการใช้เครื่องสูง มีแนวโน้มเต็ม มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ต้องฟอกทุกสัปดาห์ บริษัทให้บริการครบวงจร ออกแบบฟอกไตให้โรงพยาบาลต่างๆ และให้บริการเอง ปัจจุบันมี 20 สาขา นำเงิน IPO ขยายเพิ่ม 14 แห่งทั่วประเทศ ส่วนค่าP/E เทียบกับโรงพยาบาลขนาดเล็ก 27-30 เท่า” นายเอกจักรกล่าว