KWM ส่งซิก Q4 กลับมาคึกคัก จ่อนำผลิตภัณฑ์สารสกัดพืชกระท่อมลงสนาม

HoonSmart.com>>”เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค” เผย 9 เดือนปี 65 กำไรสุทธิลดเหลือ 28 ล้านบาท วูบ 59% ช่วง Low Season เงินเฟ้อพุ่ง ฝนตกมาก กระทบรายได้เกษตรกร “ผู้บริหาร “ลั่นไตรมาส 4 ฟื้น เกษตรกรเริ่มกลับมาเพาะปลูก พร้อมลุยขยายตลาด CLMV หลังไลน์ผลิตที่ 3 เสร็จ ใส่เกียร์รุกโรงงานสกัดสารพืชสมุนไพร คาดเสร็จไตรมาส 4 นี้ จ่อนำผลิตภัณฑ์สารสกัดจากพืชกระท่อม ลงสนามไตรมาส 1/66

เอกพันธ์ วนโกสุม

นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค (KWM) เปิดเผยว่า ภาพรวมในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 ว่า มีแนวโน้มฟื้นตัว เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2565 ที่เป็นช่วง Low Season และสภาพอากาศคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้มากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเพิ่มไลน์กำลังการผลิตที่ 3 ของภาคการเกษตร เพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศและต่างประเทศ

ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการวางแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยไลน์ผลิตใหม่จะติดตั้งเสร็จภายในเดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/2565 นี้

สำหรับไลน์ผลิตดังกล่าว จะใช้นวัตกรรม Robot ในการควบคุมการผลิต จำนวน 5 ตัว และมีพนักงานควบคุมเพียง 2 คนในขณะที่ไลน์ผลิตที่ 1 และ 2 เป็นรูปแบบการผลิตแบบเมนนวล (manual) ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง (Economies of Scale) เพิ่มความสามารถในการแข่งขันไปยังตลาดต่างประเทศได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ หลังจากที่มีการเพิ่มไลน์ที่ 3 บริษัทฯเตรียมขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, พม่า, เวียดนาม) เป็นแห่งแรก ซึ่งขณะนี้บริษัทฯมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศพม่า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นในปี 2566

ขณะที่การดำเนินงานในส่วนของ บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (“KWHB”)นั้น เบื้องต้นคาดว่าโรงงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2565นี้ ก่อนที่จะติดตั้งเครื่องสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย พืชกระท่อม และดำเนินการสกัดในเชิงพาณิชย์ในขั้นตอนต่อไป โดยปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัด ที่ได้จากพืชกระท่อม ทั้งในรูปแบบ ละลายน้ำ แคปซูล เป็นต้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขอเลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารสกัดจากพืชกระท่อม จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งนี้คาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะเริ่มวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส1/2566 อย่างแน่นอน

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย จำนวน 392.70 ล้านบาท ลดลง 10.32% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 28.46 ล้านบาท ลดลง 59.38% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย จำนวน 62.26 ล้านบาท ลดลง 51.40% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 1.70 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่เป็นตัวแปรฉุดให้ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกของปี 2565 ชะลอตัว เป็นผลมาจากวิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบกำลังซื้อของลูกค้า และสภาพอากาศแปรปรวน ประกอบกับอิทธิพลของลมมรสุมและพายุที่เข้ามาหลายระลอก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตสินค้าเกษตร และผลผลิตบางส่วนได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ยอดขายสินค้าลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเก็บเกี่ยวอย่างใบเกลียวที่ไม่สามารถทำยอดขายได้มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วในไตรมาส 3 จะเป็นช่วง Low Season ของกลุ่มสินค้าใบผาลและโครงผาล แต่เนื่องจากปี 2564 เป็นปีฐานสูง ที่ High Season ตลอดทั้งปี และต้นทุขายที่เพิ่มสูงขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตอื่นๆ ทำให้ยอดขายสินค้าโดยรวมปรับตัวลดกว่าช่วงปกติ