HoonSmart.com>> แฉแรงทิ้งระเบิดหุ้น”มอร์ รีเทิร์น” 1,500 ล้านหุ้น ออเดอร์แมทช์ฝั่งซื้อขายเป็นความตั้งใจ ปปง. ตามกลิ่นแก๊งซุปเปอร์คาร์ ไฮโซดังเทหุ้น MORE ผ่าน NVDR ทำหุ้นดิ่งผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์ ฉ้อโกงประชาชน เชื่อ ป.ชักดาบ หลังขายออกในตลาดแล้ว ยังอมอยู่อีก 2,000 ล้านบาท หาเงินไม่ทันจ่าย 14 พ.ย. ด้าน “อมฤทธิ์” ผู้ถือหุ้นใหญ่ยันไม่ได้ขาย กลุ่มยังคงถือกว่า 50% ขอปิดบุ๊คหาตัวไอ้โม่ง จี้ตลาดสอบพฤติกรรมหุ้น แรงขายถูกชอร์ตเซลทุกครั้ง ฝั่งโบรกเกอร์กว่า 10 รายเจ็บหนัก ร้องตลท.-ก.ล.ต. ช่วยด่วน ถก 2 วัน สรุปเป็นเรื่องโบรกฯ กับลูกค้า บริษัทดิ้นหาทางออกเอง
คนในวงการตลาดทุนกล่าวว่า แรงขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น (MORE) ที่ออกมามากถึง 1,500 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นความผิดพลาดในการคีย์ออเดอร์ เพราะคำสั่งซื้อและขายแมทช์กันได้ เกิดจากความตั้งใจขาย มาจากกลุ่มไฮโซดังแก๊งซุปเปอร์คาร์ ขายหุ้นออกมาโครมเดียว จากหุ้นที่ถือโดยตรงและผ่าน NVDR เพื่อหลีกเลี่ยงการรายงานการได้มาจำหน่ายหุ้นที่ถึงหรือข้าม 5% ของทุนชำระแล้ว จนทำให้ราคาหุ้นดิ่งแรงผิดปกติ สร้างความเสียหายให้แก่นักลงทุนจำนวนมาก เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ และยังเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนตามความผิดของปปง.ด้วย
ส่วน ป.นักลงทุนที่ซื้อหุ้นล็อตใหญ่ขนาดนี้ เชื่อว่าไม่มีเงินมาชำระได้แน่นอนในวันครบดีลเคลียริ่ง T+2 ในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.นี้ แม้ว่าจะพยายามขายหุ้นออกไปในตลาดหลักทรัพย์บ้างก็ตาม ก็ยังเหลืออยู่ 2,000 ล้านบาท และเชื่อว่า หุ้นจำนวนมากขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ ที่ไม่ใช่หุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่
ขณะที่นาย อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 1,547 ล้านหุ้น ให้สัมภาษณ์”HoonSmart” ยืนยันว่า ไม่ได้ขายออก ตัวเค้า,นาย ศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล และนาย สามารถ ฉั่วศิริพัฒนา ยังคงถือหุ้นใหญ่รวมกันไม่น้อยกว่า 50% ตอนนี้พยายามหาคำคอบว่า ใครขายหุ้น เพราะตกเป็นจำเลยของสังคม เนื่องจากจำนวนที่ขายออกใกล้เคียงกับจำนวนที่ถือหุ้น
พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่า ทุกครั้งที่หุ้น MORE ถูกกระแทกขายออกมา จะเป็นการถูกทำชอร์ตเซลทุกครั้ง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ควรจะเข้าไปตรวจสอบ เพื่อสร้างความเป็นธรรม เพื่อคลายข้อสงสัย โดยเฉพาะแรงขายหนักๆ สองวัน (10-11พ.ย.)
“ผมอยู่ระหว่างการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น เพื่อหาคำตอบ สัปดาห์นี้น่าจะได้รับคำตอบ”นายอมฤทธิ์ กล่าว
สำหรับผู้แปลงวอร์แรนต์( MORE-W2) เป็นหุ้นในราคา 2 บาท/หุ้น ถูกมองว่าหุ้น MORE มีการพยุงราคา เพื่อให้คนถือวอร์แรนต์ เข้าไปแปลงเป็นหุ้น ซึ่งได้รับความเสียหายจากราคาดิ่งลงแรงในช่วงนี้เช่นเดียวกัน นายอมฤทธิ์กล่าวว่า ส่วนตัวก็ใช้เงินเข้าไปแปลงเป็นหุ้นเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งนักลงทุนก็ไม่ได้รับความเสียหาย เพราะส่วนใหญ่มีการขายหุ้นแม่ เพื่อแปลงวอร์แรนต์
การกระหน่ำขายหุ้น MORE ครั้งนี้ ส่งผลกระทบกับโบรกเกอร์มากกว่า 10 บริษัท มีการเสนอแนวทางให้ตลาดหลักทรัพย์และก.ล.ต.ช่วยเหลือ จากการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ถึง 2 วันคือวันที่ 11-12 พ.ย.ผลสรุปออกมาคือเป็นเรื่องระหว่างโบรกเกอร์กับลูกค้าเอง ตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถชะลอคำสั่งจ่ายเงินค่าขายได้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวม โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังมีเงินกองทุน สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ หากระงับการจ่ายค่าขายหุ้น อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวงกว้างมากกว่า
ขณะที่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง ต่างพยายามหาทางออก บางรายก็ยินยอมจ่ายเงินค่าขายหุ้นให้กับลูกค้า และไปฟ้องร้อง ป.ตามขั้นตอนต่อไป แต่โบรกเกอร์บางราย ชะลอการจ่ายเงินค่าขายหุ้น เนื่องจากมองว่าการซื้อขายครั้งนี้เข้าข่ายการกระทำความผิดทางกฎหมายหลักทรัพย์ อาจจะนำไปสู่การฟ้องร้องต่อ DSI ให้อายัดเงิน
ด้านป. ได้พยายามแก้ปัญหา เปิดโต๊ะเจรจากับโบรกกเอร์ เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ย. คาดว่าจะมีการเจรจาต่อเนื่องในวันที่ 13 พ.ย. ในที่สุดจะมีแรงขายออกมาต่อในวันจันทร์ ทำให้ราคาดิ่งฟลอร์เป็นวันที่ 3 หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดที่ 1.37 บาท -0.58 บาทหรือ -29.74% มูลค่าซื้อขาย 134 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนผู้ลงทุนระมัดระวังก่อนตัดสินใจซื้อขายหุ้น MORE สภาพการซื้อขายมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดปกติ ราคาร่วงติดฟลอร์ 2 วันติด พร้อมสั่งโบรกฯ กำกับดูแลซื้อขายใกล้ชิดป้องกันส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ผลการดำเนินงานของ MORE งวดไตรมาสที่3/2565 บริษัทขาดทุนสุทธิ 6.83 ล้านบาท พลิกจากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 89 ล้านบาท รวม 9 เดือนปีนี้กำไรเหลือเพียง 22 ล้านบาท ทรุดลงจากที่มีกำไรสุทธิ 111 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน