HoonSmart.com>>ข่าวดีๆไหลบ่าเข้าตลาดหุ้น บอร์ด กสทช.ให้ TRUE-DTAC ควบกิจการ ส่งผลดีต่อธุรกิจสื่อสาร หุ้นแบงก์วิ่งต่อ ล่าสุด TTB โกยกำไร 3,714 ล้านบาท พุ่งขึ้น 58% “ธนาคารกรุงเทพ”มีโอกาสสูงเข้าดัชนี MSCI ศาลไฟเขียวให้”การบินไทย”แก้ไขแผนฟื้นฟู คาดออกจากแผนได้ในปี 66 เร็วกว่าที่คาดไว้ปี 67 “สินมั่นคงประกันภัย”ซิลลิ่ง หลังศาลเห็นชอบให้ฟื้นฟูกิจการ ดีลซื้อ-ขายหุ้น TTTBB-JASIF ยังไม่จบ ด้านดัชนีหุ้นบวก 4 จุด ต่างชาติหันกลับมาซื้อกว่า 2,500 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นัดพิเศษในช่วงเช้าวันที่ 20 ต.ค.2565 ได้พิจารณาคำขอควบกิจการระหว่าง บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) โดยมีมติให้เอกชนดำเนินการตามคำขอได้ คาดว่าจะมีการกำหนดเงื่อนไขให้ภาคเอกชนต้องปฏิบัติตามเพื่อเยียวยาและรักษาผลประโยขน์ของผู้ใช้บริการ
บล.โนมูระ พัฒนสินออกบทวิเคราะห์ว่า จากกระแสข่าวกฤษฎีกาแจ้งต่อบอร์ดกสทช. ไม่มีอำนาจอนุมัติหรือไม่อนุมัติการควบรวมระหว่าง TRUE และ DTAC และรักษาการเลขาธิการ กสทช. ยืนยันว่าได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการควบรวมและบรรจุเป็นวาระประชุม กสทช.วันนี้(20 ต.ค.65)แล้ว เป็นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มสื่อสาร ในด้านความเป็นไปได้ควบ TRUE และ DTAC ที่มีมากขึ้น หนุนโครงสร้างอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น นักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูงสามารถเก็งกำไร TRUE, DTAC ส่วนนักลงทุนรับความเสี่ยงต่ำให้มอง ADVANC INTUCH เป็นตัวเลือก
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น TRUE กลับลดลง 0.97% ปิดที่ 5.10 บาท และ DTAC ติดลบ 1.60% ปิดที่ 46 บาท ส่วน ADVANC ดีดตัวขึ้น 1.89% ปิดที่ 189 บาท
ด้านกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ราคายังคงปรับตัวขึ้นนำโดยธนาคารกรุงเทพ(BBL) ราคาปิดที่ 143 บาท บวก 2 บาทหรือ 1.78% มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 3,439 ล้านบาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ”เก็งกําไร”หุ้น BBL ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่คือการรายงานงบไตรมาส 3/65 ในวันที่ 20-21 ต.ค. คาดกำไร 7,900ล้านบาท เติบโต +16% YoY และ +15% QoQ จากการตั้งสำรองที่ลดลง ขณะที่ไตรมาส 4 คาดเริ่มเห็นผลประโยชน์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เนื่องจากตลาดคาดว่าอาจมีโอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่ ดัชนี MSCI ในรอบนี้ ประกาศเช้าวันที่ 11 พ.ย. ตามเวลาประเทศไทย หากเกิดขึ้น คาดว่าจะมีกระแสเงินทุนต่างชาติที่ลงทุน โดยใช้ MSCI เป็นตัวอ้างอิง (Benchmark) เข้าซื้ออย่างมีนัยสำคัญในการปรับน้ำหนักวันที่ 30 พ.ย.
บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำหุ้น BBL ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 175 บาท คาดกำไร่ไตรมาส 3/65 ที่ 7,450 ล้านบาท(+8%y-y, +7%q-q)จากการ
เติบโตของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อต่างประเทศ นอกจากนั้น ค่าใช้จ่ายสำรอง ลดลง -7% y-y เพราะธนาคารตั้งสำรองไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา ส่วน NPL ratio อยู่ที่ 3.45% เทียบไตรมาส 2/65 ที่ 3.40% และ Coverage Ratio ที่ 211% สูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ คาดกำไรไตรมาส 4/65 เติบโต y-y จากฐานสินเชื่อที่ขยายตัว และ yield on loan เพิ่มขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น โดยคาดกำไรปี 65 ที่ 2.78 หมื่นล้านบาท (+5% y-y) และกำไรปี 66 ที่ 2.92 หมื่นล้านบาท (+5% y-y)
ด้าน Valuation มองราคาหุ้นซื้อขาย P/BV เหลือ 0.5x ต่ำกว่าช่วง Crisis ที่สูง 0.65x และ ค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 0.74x และ Div yield 3%
ส่วนหุ้นบริษัทสินมั่นคงประกันภัย (SMK) ซิลลิ่ง 29.24% ปิดที่ 6.10 บาท หลังศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทดำเนินการฟื้นฟูกิจการ และตั้งบริษัทฯเป็นผู้ทำแผน
บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) แจ้งการจำหน่ายหุ้นบริษัททริปเปิลทีบรอดแบนด์ (TTTBB) สัดส่วน 99.87% และจำหน่ายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) จำนวน 19.00% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด บริษัท ในฐานะผู้ขายก็ยังคงดำเนินการต่อไปเพื่อให้เงื่อนไขบังคับก่อนอื่นๆ สำเร็จลุล่วง เพราะยังมีความประสงค์ที่จะให้มีการทำธุรกรรมเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 1/66 ดังที่ได้เคยเปิดเผยข้อมูลไว้
ด้านตลาดหลักทรัพย์วันที่ 20 ต.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,592.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.01 จุด หรือ +0.25% มูลค่าซื้อขาย 66,429.13 ล้านบาท เกิดจากนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,546.89 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 148.98 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 2,234.24 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 461.62 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกได้สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ติดลบ โดยเฉพาะตลาดในแถบเอเชียเหนือ จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีความไม่แน่นอน
อย่างไรก็ดี ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มธนาคารหลังงบออกมาดีกว่าคาดและหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ได้แรงหนุนจากราคาพลังงานยังมีความต้องการจากอากาศหนาว อย่างไรก็ดี วอลุ่มเทรดตลาดโดยรวมถือว่ายังน้อยสะท้อนนักลงทุนยังไม่มั่นลงทุน ซึ่งมองว่าคนยังระวังการลงทุนเนื่องจากจะมีการประชุมเฟดในต้นเดือนพ.ย. และสัปดาห์หน้าจะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯประกาศออกมาด้วย
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 21 ต.ค.2565 ตลาดคงจะแกว่งตัว โดยมีแนวรับ 1,580 จุด แนวต้าน 1,600-1,620 จุด