หุ้น IVL ต้องมีติดพอร์ต ปีนี้ซื้อกิจการ 10 ดีล โตก้าวกระโดด

อินโดรามาฯ ผงาดปิโตรเคมียักษ์ใหญ่ของโลก ประสบความสำเร็จในการเพิ่มมูลค่ากิจการอย่างรวดเร็ว จากโมเดลซื้อบริษัทต่างประเทศ 9 เดือนปี 2561 เทกโอเวอร์-ร่วมทุนทุกเดือน โดยไม่ต้องเพิ่มทุนก้อนโต ขยายธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ปักธงเป็นผู้นำตลาดทุกทวีป นักวิเคราะห์ 8 ใน 9 คนเชียร์ซื้อ ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 70 บาท หยวนต้าให้สูงสุด 84 บาท

บริษัทจดทะเบียนแต่ละแห่งกว่าจะตัดสินใจซื้อกิจการ หรือลงทุนในโครงการใดต้องใช้เวลาศึกษานาน บางแห่งผ่านมาเป็นปีแล้ว ก็ยังไม่สำเร็จ แตกต่างจากบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL)ที่ซื้อกิจการหรือร่วมทุนบริษัทขนาดใหญ่ในต่างประเทศทุกเดือน โดยในช่วง 9 เดือนของปี 2561 มีทั้งหมด 10 ดีล IVL เลือกซื้อบริษัทที่เป็นผู้นำ PET PTA และหลายอุตสาหกรรม ที่กระจายอยู่ในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป สามารถเพิ่มกำลังการผลิต และสร้างกำไรกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

ล่าสุดซื้อกิจการกลุ่มบริษัท Schoeller ซึ่งเป็นผู้ผลิตด้ายขนสัตว์แท้และด้ายขนสัตว์ผสมชั้นนำในทวีปยุโรป มีโรงงานย้อมสีในประเทศออสเตรเลีย และโรงปั่นด้ายในสาธารณรัฐเช็ก มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 3,600 ตันต่อปี มีลูกค้าเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกทั้งในงานอุตสาหกรรมและไม่ใช่อุตสาหกรรม การลงทุนครั้งนี้ช่วยเพิ่มการเติบโตของธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มของบริษัท

“IVL เป็นตัวอย่างที่ดีในโมเดลธุรกิจ ซื้อกิจการในต่างประเทศ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น และยังสามารถเติบโต-อย่างยั่งยืน โดยเป็น 1 ใน 19 บริษัทที่ได้รับเลือกเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI ประจำปี 2561″ผู้บริหารบริษัทปิโตรเคมีให้ความเห็น


ประเด็นที่สำคัญ คือการซื้อกิจการขนาดใหญ่ มีมูลค่าสูงๆ จำนวนหลายบริษัท IVL กลับไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนก้อนโต มีเพียงหุ้นเพิ่มทุนที่เกิดจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นชุดที่ 2 (IVL-W2) ในราคาแปลงสภาพ 43 บาทต่อหุ้น เมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา หุ้นจำนวน 30,579,912 หุ้น เพิ่งเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยผู้บริหาร IVL กล่าวว่า บริษัทไม่ต้องเพิ่มทุน เพราะบริษัทที่ซื้อมาแต่ละแห่งมีกำไร IVL ได้ผลตอบแทนมาก็นำไปลงทุนต่อ มีกระแสเงินสดพร้อมลงทุนในโครงการใหม่ ๆ

นอกจากนั้นบริษัทฯยังมีการการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 17,500 ล้านบาท อายุ 3-5 ปี ดอกเบี้ยประมาณ 3% ต่อปี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2561 รวมถึงการใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินด้วย

ความสำเร็จของ IVL ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2561 มีกำไรสุทธิ 8,242 ล้านบาท พุ่งขึ้น 180% หรือเพิ่มขึ้น 5,305 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,937 ล้านบาท รวม 6 เดือนปีนี้ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 14,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,693 ล้านบาทหรือ เติบโต 90% จากที่มีกำไรสุทธิ 7,363 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน

ทางด้านนักวิเคราะห์จำนวน 9 คนออกบทวิเคราะห์หุ้น IVL โดย 8 คนแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 72 บาท มีเพียงบล.เอเซียพลัสให้ถือ ราคาเป้าหมาย 62 บาท ขณะที่บล.หยวนต้าให้เป้าหมายสูงสุดถึง 84 บาท ตามด้วยบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส 82 บาท และบล.โนมูระพัฒนสิน 81 บาท จากราคาล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 60 บาท และ IVL ยังเป็นหุ้นอ้างอิงอีกตัวหนึ่งที่นักลงทุนนำใช้ซื้อขายฟิวเจอรส์ในบล็อกเทรด