หุ้นปิดเช้าร่วง 15.09 จุด ก่อนหยุดยาว-หวั่นเฟดไม่ชะลอขึ้นดบ.

HoonSmart.com>>ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,564.57 จุด ลดลง 15.09 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐออกมาดีเกินคาด หวั่นเฟดไม่ชะลอขึ้นดอกเบี้ย ส่งบอนด์ยีลด์พุ่ง-เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และตลาดหุ้นไทยก็จะหยุดยาวช่วงปลายสัปดาห์นี้ แนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะทรงตัวจากช่วงเช้า แนวรับ 1,565-1,560 แนวต้าน 1,575 จุด

ตลาดหุ้นวันที่ 10 ต.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,564.57 จุด ลดลง 15.09 จุด หรือ -0.96% มูลค่าการซื้อขาย 27,122.01 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,573.41 จุด และต่ำสุด 1,562.35 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนลบ และวันนี้หลายตลาดก็ปิดทำการ ทั้งตลาดหุ้นญี่ปุ่น, ตลาดหุ้นไต้หวัน และตลาดหุ้นมาเลเซีย ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดสหรัฐที่ปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ และอัตราการว่างงานออกมาดีกว่าคาด ทำให้มองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่น่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยก็จะมีวันหยุดระยะยาวในช่วงปลายสัปดาห์นี้ด้วย อาจทำให้ Fund Flow ชะลอการไหลเข้า และนักลงทุนต่างชาติอาจปรับพอร์ตลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดหยุดยาว โดยตลาดมีปัจจัยสำคัญในการติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของสหรัฐที่จะออกมาในวันที่ 13 ต.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดจะออกมา 8.1% จากเดือนส.ค.ที่มีเงินเฟ้อสหรัฐที่ 8.3% รวมไปถึงให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่จะออกมาในเร็วนี้

สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัวจากช่วงเช้า โดยมีแนวรับ 1,565-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.72% มูลค่าซื้อขาย 1,566.96 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 662.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +0.61% มูลค่าซื้อขาย 884.96 ล้านบาท
TOP ปิดที่ 52.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.95% มูลค่าซื้อขาย 864.13 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +0.81% มูลค่าซื้อขาย 756.96 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 170.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.29% มูลค่าซื้อขาย 713.83 ล้านบาท