ตลท.เตือนหุ้น TEAMG เสี่ยงสูง P/E 104 เท่า ‘เซียนฮง’ ดอดซื้อ 5%

HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์ฯออกโรงเตือนผู้ลงทุนให้ระวังหุ้น”ทีม คอนซัลติ้งฯ”แรงผิดปกติ ราคาพุ่งขึ้น 161% ดัน P/E สูงลิ่ว 104 เท่า P/BV 11 เท่า บริษัทยันไม่มีปัจจัยบวกหนุน ขู่หากไม่หยุดเจอมาตราดับร้อนระดับ 3 ห้ามซื้อขาย 1 วัน สั่งโบรกเกอร์กำกับซื้อขายอย่างเคร่งครัด “สถาพร งามเรืองพงศ์” โผล่กอดไว้เต็มไม้เต็มมือ 40 ล้านหุ้นแตะ 5.88% นักวิเคราะห์ 3 รายให้เป้าแค่ 2.90-4.16 บาท กำไรปีนี้ไม่สดใส

วันที่ 23 ก.ย.2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยออกข่าวเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังก่อนตัดสินใจซื้อขายหุ้น บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์  (TEAMG) เนื่องจากสภาพการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ด้วยค่า P/E ที่ 104 เท่า แม้ TEAMG อยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 2  หากสภาพการซื้อขายยังคงปรับตัวเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จะยกระดับมาตรการขึ้นสู่ระดับ 3 ซึ่งเป็นมาตรการสูงสุด และห้ามซื้อขายเป็นการชั่วคราว 1 วันทำการ

จากการติดตามสภาพการซื้อขายหุ้น TEAMG พบว่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้จะอยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขาย โดยในช่วงมาตรการราคาปรับขึ้นต่อเนื่อง 161% จาก 5.60 บาท มาที่จุดสูงสุดในวันที่ 23 ก.ย. 2565 (New high) ที่ 14.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ประมาณ 516 ล้านบาท (ก่อนเข้ามาตรการเฉลี่ยอยู่ที่ 53 ล้านบาทต่อวัน) โดยมี P/E และ P/BV ที่ 104 เท่า และ 11 เท่า ตามลำดับ ทั้งนี้ TEAMG แจ้งให้ผู้ลงทุนทราบแล้วว่า ไม่มีปัจจัยหรือพัฒนาการสำคัญใด ๆ ที่จะส่งผลต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป (ผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อ 20 ก.ย. 2565)

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงในการซื้อขายได้ หากราคาผันผวน จึงขอให้พิจารณาปัจจัยพื้นฐานและสารสนเทศที่ชี้แจงผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้ ขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหุ้น TEAMG อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ในวันเดียวกัน ภาคเช้าราคาขึ้นไปสูงสุด 15.20 บาท แต่เมื่อตลาดหลักทรัพย์เตือน เปิดภาคบ่าย ราคาดิ่งลงไปต่ำสุดที่ 13.40 บาท  นักลงทุนแค่ตกใจคำเตือน ก่อนตั้งหลักไล่ซื้อกลับดันราคาปิดที่ 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ +5.19%มูลค่าซื้อขาย 791 ล้านบาท

 

ด้านนาย สถาพร งามเรืองพงศ์ หรือเซียนฮง นักลงทุนรายใหญ่ รายงานก.ล.ต.ว่าวันที่ 22 ก.ย.2565 ได้ซื้อหุ้น TEAMG จำนวน 6.33 ล้านหุ้น หรือ 0.9306% ราคาหุ้นละ 13.70 บาท ทำให้มีหุ้นทั้งสิ้น 40 ล้านหุ้น หรือ 5.88% ของทุนเรียกชำระแล้ว ผงาดขึ้นมาถือหุ้นใหญ่อันดับที่สาม รองจากนายธีระชัย รัตนกมลพร ถือ 15.07% นายประเสริฐ ภัทรมัย ถือ 7.10%

นอกจากนี้ นายสถาพร ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสามของบริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) หรือ DITTO  จำนวน 40.98 ล้านหุ้นหรือ  7.76% ซึ่งเป็นบริษัทของกลุ่มรัตนกมลพร จากการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุดวันที่ 31 พ.ค.2565 ทั้งนี้ราคาหุ้น DITTO วิ่งตีคู่มากับ TEAMG หลังจากนายธีระชัย เปิดตัวว่าได้ซื้อหุ้น TEAMG เพิ่มจาก 12.54% เป็น 15.15% เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2565   ซึ่งมีการเซ็น MOU ร่วมมือในการทำธุรกิจร่วมกันของบริษัททั้งสอง

ส่วนกรรมการบริษัท  โดยนาย ชวลิต จันทรรัตน์ ยังคงขายหุ้นออก วันที่ 19 ก.ย. จำนวน 250,700 หุ้น ราคาหุ้นละ 12 บาทคงเหลือ 4,430,400 หุ้น
นาย กิตติพล บุลนิม ขาย จำนวน 1,350,000 หุ้นราคา 13.90 บาท วันที่ 23 ก.ย. 2565

ด้านนักวิเคราะห์ 3 ราย ต่างแนะนำให้ขายหุ้น TEAMG บล.กสิกรไทยออกบทวิเคราะห์ วันที่ 15 ก.ย.2565 ยืนยันให้ราคาเป้าหมายเพียง 3.88 บาท คาดปีนี้มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.20 บาท และเพิ่มขึ้น 32% เป็น 0.27 บาท ในปี 2566 บล.หยวนต้าให้มูลค่าเหมาะสม 2.90 บาท คาดปีนี้กำไรต่อหุ้น 0.16 บาทและเพิ่มเป็น 0.19 บาทในปีหน้า และบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ให้มูลค่าเหมาะสม 4.16 บาท ปีนี้กำไรต่อหุ้น  0.21 บาท และเพิ่มเป็น 0.23 บาทในปี 2566

บล.หยวนต้าปรับลดราคาเหมาะสมปีนี้ลงเหลือ 2.90 บาท และคงคำแนะนำขาย หลังปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ลง 25% เหลือ 107 ล้านบาท ลดลง 4% จากปี 2564 สะท้อนผลของโครงการภาครัฐที่ชะลอตัวในครึ่งแรกปี2565 ส่วนกำไรปี 2566 คาดโตเร่งขึ้นเป็น 130 ล้านบาท โต 21% จากการรับรู้รายได้จากงานใหม่ที่ได้รับในปี 2565  ซึ่งไตรมาส 2 มีกำไรปกติเพียง 5.7 ล้านบาทต่ำเป็นประวัติการณ์ ลดลง 69% จากไตรมาสแรกและลดลง 70% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คาดครึ่งปีหลังฟื้นตัวแต่ยังไม่เดิน มีการรับรู้ backlog ที่มีกว่า 4,100 ล้านบาท