HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 0.07จุด ผันผวนก่อนรู้ผลประชุมเฟดคืนนี้-อาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% หากขึ้นแค่ 0.75% อาจมีแรงซื้อกลับ แต่หากขึ้นถึง 1% หวั่นเกิดเศรษฐกิจถดถอยตามมา สะท้อนบอนด์ยีลด์สหรัฐเร่งสูงขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า กลับไปแตะ 37 บาทอีกครั้ง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 21 ก.ย.2565 ณ เวลา 10.02 น. อยู่ที่ระดับ 1,638.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด หรือ +0.00% มูลค่าซื้อขาย 6,401.63 ล้านบาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองดัชนีฯ ผันผวน มีโอกาสปรับตัวลดลง ก่อนการประชุม FOMC ที่อาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% โดยตลาดทั่วโลกยังรอคอยผลการประชุม FOCM คืนนี้ หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% ตลาดน่าจะมีแรงซื้อกลับ แต่หากการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกมา 1% ตลาดจะเป็นลบ จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ( Recession) ของสหรัฐฯที่จะตามมา
อัตราผลตอบแทนพันธบัตร ( Bond Yield) อายุ 2 และ 10 ปีของสหรัฐฯ เร่งตัวสูงขึ้น คืนที่ผ่านมาขึ้นแตะ 4.0% และ 3.6% ตามลำดับ สะท้อนว่าตลาดกำลังเชื่อว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% ในการประชุมครั้งนี้
ด้าน เจ.พี. มอร์แกน มองไทย และญี่ปุ่น เป็นจุดอ่อนในเอเชีย เมื่อพิจารณาจากทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ โดยมองว่าอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฝรั่งเทขายตลาดหุ้นไทย สะสมเดือนนี้ สูงถึง 1.5 หมื่นล้านบาท
ค่าเงินบาทอ่อนค่า กลับไปแตะ 37 บาทอีกครั้ง ขณะที่ ครม.มีการสั่งให้ ธปท. ติดตามอย่างใกล้ชิดหากยังอ่อนค่าลงไปกว่านี้อาจจะทำให้ ธปท.มีการเข้ามาแทรกแซงค่าเงินบาท และตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ยอดขายบ้าน เดือน ส.ค ของสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุนมอง เข้าสู่วันสุดท้ายของการรอผลประชุม FOMC เพราะผลประชุมคืนนี้(21) จะมีผลต่อตลาดค่อนข้างมาก(บวก/ลบ) จึงยังแนะนำให้เพียงเก็งกำไรช่วงสั้น รอซื้อในจังหวะที่ดัชนีฯปรับตัวลง
หุ้นที่เป็น Domestic Play จะเลี่ยงความเสี่ยงที่มาจากต่างประเทศได้ระดับหนึ่ง โดยยังให้น้ำหนักกับ 2 กลุ่ม คือ ธนาคาร (BBL, KTB) และหุ้นท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW) และเก็งกำไรหุ้นที่ราคาลงมาลึก ๆ วันนี้ชอบ XPG, UBE
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
TRUE อยู่ที่ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ +2.88% มูลค่าซื้อขาย 876.71 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 195.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +2.09% มูลค่าซื้อขาย 713.03 ล้านบาท
DTAC อยู่ที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ +5.20% มูลค่าซื้อขาย 530.31 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 167.00 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ -1.47% มูลค่าซื้อขาย 349.54 ล้านบาท
SCC อยู่ที่ 334.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -0.89% มูลค่าซื้อขาย 318.07 ล้านบาท