HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรุด ดัชนีดาวโจนส์ร่วงหนัก 1,276.37 จุด กว่า 3.94% ดัชนี S&P500 ดิ่ง -4.32% ดัชนี Nasdaq -5.16% หลังเงินเฟ้อเดือนส.ค.สูงเกินคาด ดับความคาดหวังเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 13 กันยายน 2565 ปิดที่ 31,104.97 จุด ร่วงลง 1,276.37 จุด หรือ 3.94% เป็นลดลงมากสุดภายในหนึ่งวันนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 หลังจากเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสูงเกินคาด ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ว่าระดับราคาจะอ่อนตัวลงและธนาคารกลาง (เฟด) จะไม่ดำเนินนโยบายการเงินเชิงรุก
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,932.69 จุด ลดลง 177.72 จุด, -4.32%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,633.57 จุด ร่วงลง 632.84 จุด, -5.16%
มีหุ้นเพียง 5 ตัวเท่านั้นในดัชนี S&P 500 ที่ปิดในแดนบวก ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีเจอแรงขายหนัก โดยหุ้นเมตาแพลตฟอร์มลดลง 9.4% หุ้น Nvidia ลดลง 9.5%
การลดลงของราคาหุ้นเมื่อวานกลบการปรับขึ้นที่ผ่านมา และฉุดดัชนี S&P 500 ลงมาที่ระดับ 3,908 จุด ของวันที่ 6 กันยายนและส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนมองว่าอาจจะกลับไทดสอบระดับต่พสุดของเดือนมิถุนายนอีกครั้งที่ดัชนีต่ำกว่า 3,700 จุด
ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) หรือเงินเฟ้อทั่วไปเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน แม้ราคาก๊าซลดลง และเมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 8.3% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.1% จากระยะเดียวกันของปีก่อนและจะลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า
ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน(Core CPI)ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า และ เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่า 6.1% ที่นักวิเคราะห์คาด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 7 จุด มาที่ 3.43% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 3.55% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 3.70% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2007 เพราะนักลงทุนคาดว่าเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดจะทำให้เฟดเดินหน้านโยบายการเงินเชิงรุก
ตัวเลขเดือนสิงหาคมยังสะท้อนว่าเงินเฟ้อกระจายออกไปในหลายหมวดสินค้า โดยค่าเช่าเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อน ค่าพาหนะและค่ารักษาพยาบาลต่างเพิ่มขึ้น 0.8% หมวดอาหารบริโภคในบ้าน เพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบรายปี
รายงานเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเป็นข้อมูลล่าสุดที่เฟดจะใช้ประกอบการพิจารณาในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 20-21กันยายน ซึ่งตลาดคาดไว้ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แต่เงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดอาจจะทำให้เฟดยังคงขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกมากกว่าที่นักลงทุนคาดไว้
ไมเคิล ชูมักเกอร์จาก Wells Fargo กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดทำให้นักลงทุนประเมินว่าเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 1%
ด้านนักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระคาดว่า เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 0.75% หลังเงินเฟ้อสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยระบุว่า ทั้งเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายเดือนนั้นบ่งชี้ว่า ยังมีความเสี่ยงเงินเฟ้อสูงยังมีอีกหลายระลอก จึงคาดว่าเฟดจะตอบสนองมากขึ้น
นอกจากการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนแล้ว นักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพฤศจิกายน และ 0.50% ในเดือนธันวาคมแทนที่จะเป็น 0.25% ตามที่คาดไว้ แต่คงประมาณการการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ไว้ที่ 0.25% และคาดว่าอัตราดอกเบี้ย terminal rate จะอยู่ที่ 4.50-4.75% สูงขึ้นจากเดิม 0.50%
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินหลังจากการรายงานเงินเฟ้อ โดย dollar index เพิ่มขึ้น 0.9% มาที่ 109.26 ส่วนเงินปอนด์และเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์โดยเงินปอนด์อ่อนค่าลง 1.05% มาที่ 1.155 ดอลลาร์ เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.87% มาที่ 1.003 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเทคโนโลยีที่ต่างลดลง 3.2% หลังจากเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมของสหรัฐฯสูงเกินคาด ดับความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน ท่ามกลางการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังย้อนแย้ง
อังกฤษรายงาน อัตราว่างงานไตรมาสสองต่ำสุดในรอบ 48 ปี โดยลดลงมาที่ 3.6% ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1974 ขณะที่ค่าจ้างที่แท้จริงหลังหักเงินเฟ้อลดลง 2.8% เมื่อเทียบรายปี
เยอรมนีรายงานเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 7.9%เมื่อเทียบรายปี ขณะที่สถาบันวิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) รายงานผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนกันยายนลดลงจาก -55.3 ในเดือนสิงหาคม มาที่ระดับ -61.9 มากกว่า -60.0 ที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้นยูบีเอส กรุ๊ป เอจี เพิ่มขึ้น 0.7% หลังประกาศแผนเพิ่มเงินปันผล 10% เป็น 0.55 ดอลลาร์ต่อหุ้น
หุ้นเอวีวา กรุ๊ป บริษัทซอฟต์แวร์ของอังกฤษ เพิ่มขึ้น 3.1% หลังมีรายงานว่าบริษัทชไนเดอร์ อิเล็กทริกของฝรั่งเศสใกล้บรรลุข้อตกลงที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดของเอวีวามูลค่าราว 3.5 พันล้านปอนด์ (4.1 พันล้านดอลลาร์)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 421.13 จุด ลดลง 6.62 จุด, -1.55%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,385.86 จุด ลดลง 87.17 จุด, -1.17%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,245.69 จุด ลดลง 87.90 จุด, -1.39%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,188.95 จุด ลดลง 213.32 จุด, -1.59%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 87.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 83 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 93.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล