HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 154 จุด หลังข้อมูลเศรษฐกิจชะลอตัวลง นักลงทุนรอสุนทรพจน์ “เจอโรม พาวเวลล์” ประชุมประจำปีของเฟดที่แจ๊คสันโฮล ด้านราคาน้ำมันดิบพุ่ง 4% หนุนเบรนท์ทะลุ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 23 สิงหาคม 2565 ปิดที่ 32,909.59 จุด ลดลง 154.02 จุด หรือ 0.47% จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนรอการกล่าวสุนทรพจน์ของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมประจำในวันศุกร์นี้ที่กลับมาอีกครั้ง
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,128.73 จุด ลดลง 9.26 จุด, -0.22%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,381.30 จุด ลดลง 0.27 จุด, -0.00%
เอสแอนด์พี โกลบอลรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers’ Index:PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนสิงหาคมปรับตัวลงสู่ระดับ 45.0 ในต่ำสุดในรอบ 27 เดือน จากระดับ 47.7 ในเดือนกรกฎาคม
ดัชนี PMI ภาคบริการลดลงมากที่ 44.1 ต่ำสุดในรอบ 27 เดือนเช่นกัน จาก 47.3 ในเดือนกรกฎาคม และต่ำกว่า 49.8 ที่นักวิเคราะห์คาด แต่กิจกรรมภาคการผลิตยังขยายตัวเล็กน้อยโดยดัชนี PMI อยู่ที่ 51.3 ชะลอตัวจาก 52.2 ในเดือนกรกฎาคม
ถ้าไม่รวมการลดลงในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2020 ที่โควิดระบาดหนัก ข้อมูลล่าสุดสะท้อนว่าลดลงมากสุดในรอบ 13 ปี
ด้านกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนกรกฎาคมลดลง 12.6% สู่ระดับ 511,000 ยูนิตต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2016 และต่ำกว่า 575,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด
นอกจากนี้นักลงทุนยังรอการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่แจ๊คสันโฮลของนายเจอโรม ในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงสื่อสารถึงแนวนโยบายการเงินที่ตึงตัว ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปียังคงอยู่เหนือระดับ 3%
แมรี นิโคลา จากPineBridge Investments มองว่าตลาดยังคงผันผวนในช่วง 9-18 เดือนข้างหน้า เรพาะเฟดยังเดินหน้าลดขนาดงบดุลหลังจากใช้มาตรการ QE กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโควิดระบาด
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มเฮลธ์แคร์ลดลงแรง แต่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นจากราคาน้ำมัน WTI บวกเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 3.2% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 4.2%
หุ้นซูม วิดีโอ คอมมูนิเคชันส์ ร่วงลง 16.5% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรและรายได้ทั้งปี 2565
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มสื่อที่ต่างลดลงราว 1.6% แต่กลุ่มน้ำมันและก๊าซบวก 3.1% นักลงทุนจับตาราคาน้ำมันดิบและก๊าซที่พุ่งขึ้นและค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าต่ำสุดรอบ 20 ปี ท่ามกลางการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน
ราคาน้ำมันดิบและก๊าซขึ้น โดยราคาก๊าซพุงขึ้น 13%เมื่อคืนนี้หลังท่อส่งก๊าซหลักจากคาซักสถานผ่านรัสเซียมายังยุโรปเสียหายมีผลกระทบต่อซัพพลาย
เงินยูโรอ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ มาที่ 0.9915 ต่อดอลลาร์ ต่ำสุดรอบ 20 ปีซึ่งนักวิเคราะห์จากซิตี้แบงก์มองว่า เงินยูโรจะยังคงอ่อนค่าลงอีกจากราคาก๊าซที่สูงขึ้น เงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อ
เอสแอนด์พี โกลบอลรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(Purchasing Managers’ Index:PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนสิงหาคมสะท้อนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกันโดยลดลงมาที่ 49.2 จาก 49.9 ในเดือนกรกฎาคม
แอนดรูว์ ฮาร์เกอร์จากเอสแอนด์พี โกลบอล กล่าวว่า ข้อมูล PMI ล่าสุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรไตรมาสสามปีนี้หดตัว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 431.35 จุด ลดลง 1.82 จุด, -0.42%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,488.11 จุด ลดลง 45.68 จุด, -0.61%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,362.02 จุด ลดลง 16.72 จุด, -0.26%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,194.23 จุด ลดลง 36.34 จุด, -0.27%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 3.38 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 93.74ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 3.74 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 100.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล