“อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิว นิเคชั่น” คว้างานปรับปรุงสถานีไฟฟ้าระบบ 22 เควี น่าน หนุน Backlog ในมือเพิ่มเป็น 2.98 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปี 61-62 ส่วนผลงานทั้งปีหัวเรือใหญ่ “สมบัติ อนันตรัมพร” ย้ำทำได้มากกว่า 4.9 พันล้านบาท ตามเป้าหมาย
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ชนะการประกวดราคางานประกวดราคาจ้างก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้าระบบ 22 เควี จ.น่าน มูลค่า 65.20 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 2,985 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่ารายได้ในปีนี้จะมีโอกาสทำได้มากกว่า 4,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ทำได้ 4,251 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (DISTRIBUTION) ประมาณ 50% ธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิเศษ (ENGINEERING) ประมาณ 25% และธุรกิจโทรคมนาคม (TELECOM) ประมาณ 25%
ล่าสุด บริษัทฯ ได้เป็นผู้ชนะการประกวดราคางานประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานจ้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้าระบบ 22 เควี จาก Outdoor Type เป็น Indoor Type ที่สถานีไฟฟ้าน่าน 1 จังหวัดน่าน โดยเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด มูลค่างาน 65,202,590 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งปวงแล้ว ระยะเวลาก่อสร้าง 450 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาจ้างและจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2561-2562
“บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่ต้นปี คือผลิตภัณฑ์ FTTH (FIBER Optic To The home) หรือสาย Fiber Optic ที่เข้ามาทดแทนสายทองแดง ซึ่งปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากโอเปอร์เรเตอร์รายใหญ่หลายรายและมีแนวโน้มว่าคำสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สายส่งสัญญาณ รองรับเทคโนโลยี PoE (Power Over Ethernet) ที่ใช้สำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่คาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเข้ามาสนับสนุนให้รายได้ของธุรกิจจัดจำหน่ายของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย” นายสมบัติ กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจจัดจำหน่าย เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยสัดส่วนรายได้ของแต่ละธุรกิจเป็นดังนี้ 1. ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (DISTRIBUTION) : (สัดส่วนรายได้ประมาณ 50%) 2. ธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิเศษ (ENGINEERING) : (สัดส่วนรายได้ประมาณ 25%) และ 3. ธุรกิจโทรคมนาคม (TELECOM) : (สัดส่วนรายได้ประมาณ 25%)