HoonSmart.com>>”ซินเน็ค (ประเทศไทย)” หรือ SYNEX แจ้งไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 192.24 ล้านบาท ลดลง 8.94% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 211.12 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมที่ใช้วิธีส่วนได้เสียที่ลดลง ในขณะที่ผลกำไรของงบการเงินเฉพาะกิจการยังคงเติบโต โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการ 9,591.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,209.49 ล้านบาท หรือ 14.43% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 408.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.82 ล้านบาท หรือ 1.44% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX แจ้่งว่า ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 192.24 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 211.12 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.25 บาท
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 9,591.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,209.49 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.43 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 408.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.82 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.44 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 218.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.48 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งเท่ากับ 211.55 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเทียบกับรายได้จากการขายและให้บริการลดลงเหลือร้อยละ 2.27 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่อัตราร้อยละ 2.52 โดยมีกำไรสุทธิ 192.24 ล้านบาท ลดลง 18.88 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.94 จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ภาพรวมบริษัทฯ ยังสามารถเติบโตในส่วนของรายได้จากการขายและให้บริการ เนื่องจากสถานการณ์การขาดแคลนสินค้าปรับตัวดีขึ้น ถึงแม้ว่าในไตรมาส 2/2565 จะเป็นช่วง Low season สำหรับธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าไอที ประกอบกับมีผลกระทบจากปัจจัยด้านลบต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ และการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และกระทบต่ออัตราการทำกำไรของบริษัทฯ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ยังสามารถทำกำไรได้ในอัตราที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนสถานะการณ์โควิด-19 บริษัทฯ เน้นการเติบโตในกลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียลมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งด้านการจัดจำหน่ายและการบริหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรักษาศักยภาพในการแข่งขันได้ในระยะยาว ทั้งนี้กำไรสำหรับงวดไตรมาส 2/2565 ที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมที่ใช้วิธีส่วนได้เสียที่ลดลง ในขณะที่ผลกำไรของงบการเงินเฉพาะกิจการยังคงเติบโต