โดย..สุนันท์ ศรีจันทรา
บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ล่มสลายไปแล้ว แต่การตรวจสอบความผิดในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ เพิ่งจะเริ่มต้น โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพิ่งประกาศลงโทษอดีตกรรมการและผู้บริหาร รวมทั้งนอมินีหรือตัวแทน ในความผิดการนำข้อมูลภายในมาใช้แสวงหาประโยชน์จากการซื้อขายหุ้น (อินไซเดอร์เทรดดิ้ง) ชุดใหญ่
อินไซเดอร์หุ้น EARTH เกิดขึ้นกลางปี 2560 โดยหลังจากที่ผู้บริหารบริษัท ได้ถูกธนาคารเจ้าหนี้ปฏิเสธการเลื่อนขอชำระหนี้ และทำให้คาดการณ์ได้ว่า EARTH จะต้องผิดนัดชำระหนี้ เพราะบริษัทขาดสภาพคล่องอย่างหนัก กรรมการและผู้บริหาร บุคคลใกล้ชิด ได้พากันเทขายหุ้นออกจนเกือบเกลี้ยงพอร์ต โดยบางคนขายผ่านบัญชีนอมินีหรือตัวแทนที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นไว้
การกล่าวโทษอินไซเดอร์หุ้น EARTH ถือเป็นแก๊งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพราะมีผู้ร่วมกระทำความผิดรวม 11 ราย โดยมีตระกูลพิหเคนทร์และตระกูลคุณชยางกูรอยู่หลายคน
อินไซเดอร์ทั้ง 11 รายรู้ดีว่า การผิดนัดชำระหนี้ จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น EARTH เพียงใด เมื่อถูกธนาคารปฏิเสธยืดเวลาชำระหนี้ จึงชิงกันเทขายหุ้น ต่างคนต่างแย่งกันขาย เพราะหากรอให้ข่าวการผิดนัดชำระหนี้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณชน อาจจะเสียโอกาสในการขายหุ้นในราคาที่ดี
แต่การใช้ข้อมูลภายในชิงขายหุ้นก่อน เป็นการเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป ซึ่งไม่รู้ว่า บริษัทฯ มีข่าวร้าย ไม่รู้สาเหตุของราคาหุ้นที่ปรับตัวลง และบางส่วน อาจเข้ามาช้อนซื้อ ทำให้ต้องแบกต้นทุนหุ้นราคาสูงจากกลุ่มกรรมการและผู้บริหาร EARTH
โทษของแก๊งอินไซด์หุ้น EARTH ทั้ง 11 คน ลดหลั่นตามความผิดและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการ “เล่นโกง” โดยผู้บริหารบริษัทระดับหัวโจกบางคนถูกปรับกว่า 42 ล้านบาท ส่วนนอมินีที่รับคำสั่งซื้อขาย ถูกปรับ 5 แสนบาท รวมทั้งห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัทที่อออกหลักทรัพย์หรือบริษัทจดทะเบียนระหว่าง 1-4 ปี ซึ่งหากไม่ชำระค่าปรับ ก.ล.ต.จะส่งเริ่งให้อัยการฟ้องดำเนินคดีทางแพ่ง
ก่อนหน้านี้อดีตกรรมและผู้บริหาร EARTH รวม 11 ราย ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษในความผิดลงข้อมูลเท็จ เพื่อปกปิดหนี้ที่แท้จริง ตามด้วยคดีอินไซเดอร์เทรดดิ้งและก.ล.ต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบความผิดอื่นๆ อีก
ผู้ถือหุ้นใหญ่ อดีตกรรมการ อดีตผู้บริหาร รวมทั้งกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทำความผิด สร้างความเสียหายให้ผู้ถือหุ้น EARTH ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 7,021 รายกำลังต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้
แต่ไม่ว่าจะได้รับบทลงโทษสถานใด คงไม่คุ้มกับความเสียหายของนักลงทุน เพราะขณะนี้ EARTH ตกอยู่ในสภาพล้มละลาย มีหนี้สินล้นพ้นตัว ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ หุ้นถูกพักการซื้อขาย ราคาหุ้นถูกตีค่าเป็นศูนย์
การสร้างข้อมูลเท็จ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการตั้งหนี้เทียม เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ การสั่งซื้อถ่านหินลม โดยไม่มีถ่านหินเข้ามาส่งมอบจริง รวมทั้งการใช้ข้อมูลภายใน ขายหุ้นทิ้งก่อน เอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยทั่วไป สะท้อนให้เห็นถึงพฤติของผู้ถือหุ้นใหญ่ กรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ ซึ่งมีเจตนาโกงผู้ถือหุ้นทั่วแอย่างชัดเจน
แต่จะมีเพียงกรรมการและผู้บริหาร EARTH เท่านั้นหรือไม่ที่ตั้งหน้าตั้งตาโกงผู้ถือหุ้นทั่วไป และทำอย่างไรจึงจะป้องกันไม่ให้ หุ้นที่มีพฤติกรรมโกง เข้ามาในตลาดหุ้นได้ หรือถ้าเข้ามาแล้ว ทำอย่างไรจึงจะเปิดโปงพฤติกรรมโกงของบรรดาเหล่ากรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนได้
โดยเฉพาะการผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน สูบเงินจากผู้ถือหุ้นในรูปแบบการเพิ่มทุนซ้ำซาก ก่อนนำเงินไปซื้อทรัพย์สินในราคาที่สูงเกินจริง หากินจากเงินทอน ซึ่งยังดำเนินอยู่ และบางบริษัทกำลังเปิดปฏิบัติการสูบเงินรอบใหม่อยู่
EARTH เป็นหุ้นอีกตัวที่สะท้อนให้เห็นถึงความอำมหิตของกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจ้องจะโกงผู้ถือหุ้นในทุกรูปแบบ และไม่มีความปราณีใด
จะลงทุนหุ้นตัวไหน ต้องเลือกเฟ้นให้ดี เพราะบริษัทจดทะเบียนขี้โกงไม่ได้มีเฉพาะ EARTH เท่านั้น