HoonSmart.com>>”แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป” ตั้งการ์ดสูง กำไรสุทธิ 233 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสแรก 54% และช่วงเดียวกันปีก่อน 51% กำไรจากเงินลงทุนหายไปตามภาวะตลาด และผลขาดทุนด้านเครดิตสูง รวม 6 เดือนกำไรจากการดำเนินงานสูงขึ้น 3.4% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 17.9% รายได้จากการเป็นตัวแทนประกันที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 65.2%
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 2 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 233 ล้านบาท หรือ 0.011 บาทต่อหุ้น ลดลงจำนวน 245 ล้านบาท คิดเป็น 51% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 478 ล้านบาทหรือ 0.023 บาทต่อหุ้น และลดลง 54.4% จากไตรมาสแรก โดยรวม 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 745 ล้านบาทเท่ากับ 0.035 บาทต่อหุ้น ลดลง 293 ล้านบาทหรือประมาณ 28% จากที่มีกำไรสุทธิ 1,038 ล้านบาทหรือ 0.05 บาทต่อหุ้นในระยะเดียวกันปีก่อน
บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงเทียบกับไตรมาสที่ 2/2564 เป็นผลจากการลดลงของกำไรจากเงินลงทุนและกำไรลดลง 54.4% จากไตรมาสแรก เป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 5.7% และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้น 61.1%
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ยังคงมีกำไรจากการดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหลักๆ มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 1,503.8 ล้านบาทเพิ่มขึ้นถึง 17.9% จากช่วงเดียวกันและรายได้จากการเป็นตัวแทนประกันที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 65.2% ซึ่งธนาคารยังคงตั้งสำรองค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามหลักความระมัดระวัง เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อและรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 196% แม้อตัราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ลดลงจาก 2.77% ณ สิ้นปี 2564 เหลือ 2.57% ณ ไตรมาส 2/2565 และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 16.4% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด