HoonSmart.com>> “ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป อัตราผลตอบแทน 3.70-3.90% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน คาดเปิดจอง 1-3 ส.ค.65 ด้านอันดับความน่าเชื่อถือบริษัทและหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เป็นระดับลงทุนได้ มั่นใจได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุน เตรียมนำเงินชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนด รุกขยายสินเชื่อรายย่อย หนุนเติบโตก้าวกระโดด
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) อายุหุ้นกู้ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.70-3.90% ต่อปี จะแจ้งอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ผู้ลงทุนทราบภายหลัง จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ระหว่างวันที่ 1-3 ส.ค.2565
ด้านอันดับความน่าเชื่อถือบริษัท และหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 และมีการค้ำประกันโดยบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ SAWAD ถือหุ้น 99.99% ดำเนินธุรกิจติดตามหนี้สิน ให้บริการสินเชื่อ และนายหน้าประกันวินาศภัยให้กับทาง SAWAD เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคม 2565 และใช้ในการขยายกิจการของบริษัท โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเครือศรีสวัสดิ์
นางสาวธิดา กล่าวต่อว่า บริษัทตระหนักถึงการประกอบกิจการเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมองภาพการพัฒนาธุรกิจแบบองค์รวม ไม่พึ่งพิงเพียงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง และได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้พิจารณาอนุมัติให้ บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT คืนใบอนุญาตให้ธนาคารแห่งประเทศไทย และให้บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ SCAP เข้ารวมกับ BFIT เพื่อทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อแก่บุคคลรายย่อยทั่วไปที่ต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่
การควบรวมธุรกิจครั้งนี้ของ BFIT และ SCAP เป็นส่วนหนึ่งในแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มศรีสวัสดิ์ เพื่อผลักดันให้ SCAP ที่ดูแลธุรกิจด้านสินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทจะดูแลธุรกิจจำนำเป็นหลัก และ BFIT จะรุกธุรกิจด้านสินเชื่ออื่นๆ อาทิ ธุรกิจเช่าซื้อทุกประเภทแบบครบวงจร และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งนี้การควบรวมต้องได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นก่อนและคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้
ด้านสถาบันการเงินผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ มั่นใจว่าหุ้นกู้ SAWAD ที่จะเสนอขายในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2565 นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยกิจการที่มีความมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ มีโอกาสและมีศักยภาพในการเติบโต และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทาง SAWAD เปิดจำหน่ายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนทั่วไปหรือที่เรียกว่า Public Offering ทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจสามารถจองซื้อได้จากสถาบันการเงินทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย,ธนาคารกสิกรไทย,ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย,ธนาคารออมสิน, บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส โดยจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุกๆ 100,000 บาท