HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,544.21 จุด ลดลง 2.59 จุด แกว่งทรงตัว รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงาน-ธนาคาร หลังเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯสูงกว่าคาด ทำให้ไปกดดันสินทรัพย์เสี่ยง และราคาน้ำมันร่วงช่วงที่ตลาดปิดทำการ แนวโน้มภาคบ่ายคาดแกว่งในกรอบแนวรับ 1,540 แนวต้าน 1,550 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 14 ก.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,544.21 จุด ลดลง 2.59 จุด หรือ -0.17% มูลค่าการซื้อขาย 30,395.03 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,550.33 จุด และต่ำสุด 1,542.27 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้แกว่งทรงตัว โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร หลังจากที่เงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯออกมาสูงกว่าตลาดคาด ทำให้ไปกดดันสินทรัพย์เสี่ยง และราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงมากในช่วงที่ตลาดปิดทำการ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับ โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะฟื้นตัวขึ้นได้หลังจากพักตัวไปแล้ว
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน เริ่มที่กลุ่มธนาคาร โดยวันนี้ TISCO จะประกาศงบฯ และติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันนี้ ส่วนพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) ติดตามตัวเลข GDP งวดไตรมาส 2/65 ของจีน
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายแกว่งในกรอบแนวรับ 1,540 จุด แนวต้าน 1,550 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
SCB ปิดที่ 96.75 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ -3.25% มูลค่าซื้อขาย 2,630.73 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.88% มูลค่าซื้อขาย 1,724.88 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.02% มูลค่าซื้อขาย 1,457.57 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 128.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.91% มูลค่าซื้อขาย 1,149.59 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 27.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 940.10 ล้านบาท