BLESS หุ้นอสังหาฯ อนาคตไกล ระดมทุน mai ดันกำไรพุ่งฉิว!

HoonSmart.com>>ท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง และมีปัจจัยลบที่คอยบั่นทอนความเชื่อมั่นการลงทุนอยู่เป็นระยะ ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจชะลอตัว จากผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อพุ่งแรงในรอบหลายปี ขณะที่ราคาน้ำมันยืนสูง ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่า จากกระแสเงินทุนต่างชาติทยอยไหลออกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในภาวะเช่นนี้จะต้องเลือกลงทุนหุ้นคุณภาพดี มีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง อนาคตไกล สามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในรอบนี้ไปให้ได้

ทั้งนี้ บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BLESS เป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ที่มีคุณสมบัติครบ และน่าจะเป็นตัวเลือกการลงทุนเพื่อเป็นใช้หลบภัยความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี เพราะที่ผ่านมา BLESS เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เคยผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาหลายรอบตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี โดยทุกครั้งยังรักษาความสามารถการทำกำไรไว้ได้

ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย

ภายใต้แกนนำของ “ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BLESS ซึ่งเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 30 ปี และคณะกรรมการของบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้สามารถกำหนดนโยบายการบริหารและปรับกลยุทธ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทำให้รับมือกับวิกฤติที่ผ่านมาได้ทุกครั้ง

สำหรับวิกฤติเศรษฐกิจรอบนี้ BLESS ได้เลือกการระดมทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพฐานทุน และเตรียมพร้อมการกลับมาฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้นในราคาหุ้นละ1.40 บาท และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “BLESS” ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

BLESS ประกอบธุรกิจหลักในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขาย แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบประกอบด้วย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม Low Rise ภายใต้ชื่อโครงการ Blessington, Mellizo Park, Bless Town, Blessity Park, Bless Ville และ Bleisure ซึ่งแบ่งตามประเภทโครงการและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มี โครงการที่ปิดการขายแล้ว จำนวน 6 โครงการ มีโครงการที่อยู่ในระหว่างการขาย 8 โครงการ และโครงการในอนาคตอีก 1 โครงการ

สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในการซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ พร้อมชำระคืนหนี้เงินกู้ยืม และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ รองรับแผนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 3 ปีข้างหน้า

“การระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยให้บริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น เพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ รองรับแผนการดำเนินงานในอนาคต เนื่องจากมีเครื่องมือในการระดมทุนที่หลากหลาย ทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจลดลง เมื่อเทียบกับคู่แข่งนอกตลาด โดย BLESS มีแผนขยายโครงการอสังหาฯเน้นแนวราบ เพื่อรองรับดีมานด์ลูกค้าที่มีระดับรายได้ปานกลาง-ระดับบน สร้างโอกาสการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในอีก 3 ปี ข้างหน้า”นายชัยวัฒน์กล่าว

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานที่ผ่านมา BLESS มีรายได้จากการขายในปี 2563-2564 จำนวน 894.65 ล้านบาท และ 795.62 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 99.91% และ99.70% ของรายได้รวมตามลำดับ รายได้จากการขายและให้บริการในสำหรับปี2563 เพิ่มขึ้น 60.59% จากปี2562จากรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการใหม่ 1 โครงการ ได้แก่ โครงการเบล็สซิตี้พาร์ค วงแหวน – ลำลูกกาและการโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากโครงการที่เปิดตัวไปก่อน

ขณะที่ภาพรวมกำไรสุทธิ โดยในปี 2563 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ114.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 38.57%จากรายได้จากการขายและให้บริการเพิ่มมากขึ้นจากการเปิดโครงการใหม่ 1 โครงการ และการขายต่อเนื่องจากโครงการเดิม ด้านความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นโดยในปี 2563-2564 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้น30.71%และ30.40% ตามลำดับ

สอดรับโบรกเกอร์ได้ซึ่งประเมินปัจจัยพื้นฐานของ BLESS โดยคาดว่าหลังระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้มีศักยภาพในความสามารถการทำกำไรเติบโตได้ต่อเนื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยอัตราการเติบโตกำไรสุทธิจะอยู่ที่ระดับ 26-34%ต่อปี และมีรายละเอียดประกอบด้วย

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า BLESS บริษัทฯเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ กระจายบริเวณกรุงเทพฯชั้นนอกและปริมณฑล ก่อด้วยระบบ wall Form ที่มีความแข็งแรงและควบคุมต้นทุนได้ดี ซึ่งการระดมทุนขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถใช้เงินทุนในการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ และใช้ชำระหนี้คืนเงินกู้แก่สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ขณะที่ประมาณการรายได้และกำไรมีการเติบโตต่อเนื่อง คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยรายปี 2564-2566 (CAGR) 25.5% ต่อปี และกำไรเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 34.2% ต่อปี เติบโตในอัตราเร่งที่สูงกว่าการเติบโตของรายได้โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 1.53-1.62 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ ความน่าสนใจในการลงทุน BLESS โครงการมีความหลากหลายทั้งคอนโดฯทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว บนพื้นที่ศักยภาพ กระจายบริเวณกรุงเทพชั้นนอกและ ปริมณฑล สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกความต้องการ โดยที่มีโครงการใน Inventory มูลค่ากว่า 3,117 ล้านบาท และมีโครงการบ้านเดี่ยวที่กำลังจะเปิดตัวใหม่มูลค่า 770 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการของ BLESS สร้างด้วยระบบ Wall Form ที่มีความแข็งแรงและรวดเร็ว

BLESS มี Proven Trackrecord จากโครงการที่พัฒนาทั้งหมด 15 โครงการปิดการขายแล้ว 6 โครงการ และอยู่ระหว่างพัฒนา 9 โครงการ โดยหลังการ IPO คาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ราว 2-3 โครงการต่อปี โดยยังคงเน้นโครงการแนวราบ เนื่องจากเป็นโครงการที่มี Demand สูง มีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้ชีวิตแบบ New normal และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งผู้บริหารมีประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาฯมานานานกว่า 20 ปี เชี่ยวชาญด้านการควบคุมการก่อสร้างและพัฒนาโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีอัตราทำกำรขั้นต้นที่สูงกว่า 30%

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า มูลค่าพื้นฐานหุ้นBLESS ณ สิ้นปี 2565 ที่ 1.60 บาท โดยอิง target PE ที่ 9.0 เท่า หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลังอุตสาหกรรมระยะยาว โดยประเมินผลประกอบการในปี 2565-2569 เข้าสู่โหมดการเติบโตด้วย CAGR 2 ปีที่ 32% คาดกำไรสุทธิปี 2565 เติบโต 31%จากปีก่อนที่ 105 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่องอีก 33%จากปีก่อนในปี 2566คาดอยู่ที่ 139 ล้านบาท (คิดเป็นการเติบโตด้วย CAGR 2 ปีที่ 32%)

ผลักดันจากฐานที่ต่ำ เนื่องจากบริษัทฯยังอยู่ในวัฎจักรการเติบโต และการรับรู้รายได้จากทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและพัฒนา รวมถึงการรับรู้รายได้จากโครงการในอนาคต (เช่น โครงการเบล็สซิงตัน วงแหวนฯ-ลำลูกกา) คาดอัตรากำไรขั้นต้นเชิงอนุรักษ์นิยมที่ 30.5% ในปี 2565F (ทรงตัว YoY) และขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 30.7% ในปี 2566 เนื่องจากคาดบริษัทฯจะสามารถลดทอนผลกระทบจากเงินเฟ้อไปได้ ทำให้บริษัทจะสามารถประคองกำไรขั้นต้นไปได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2566 เท่ากับ 1.50 บาท BLESS ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาฯประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบระดับ Mid-to-Low เป็นหลัก และพัฒนาคอนโดฯ LowRise 1 แห่งมีแบรนด์ครอบคลุม ลูกค้าทุกกลุ่ม เน้นการออกแบบฟังก์ชัน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคสูงสุด ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพในกทม.และปริมณฑล ในราคาที่เหมาะสม พร้อมขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ของผู้บริหารในแวดวงอสังหาฯที่มีมานานกว่า 20 ปี

ปัจจัยการเติบโตมาจากตลาดแนวราบที่ยังแข็งแกร่ง รวมถึงได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐ และการผ่อนคลาย LTV ซึ่งคาดผลประกอบการ 3 ปีข้างหน้าขยายตัว 26.0% CAGR จากการเน้นขายและโอน โครงการเดิม บวกกับแผนเปิดโครงการใหม่

จากข้อมูลดังกล่าวน่าจะพอบ่งชี้ได้ว่า หุ้นBLESS เป็นหนึ่งในหุ้นอสังหาฯที่มีอนาคตไกล เมื่อระดมทุนแล้วฐานทุนแข็งแรงมีโอกาสเติบโตได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงน่าจะเป็นหุ้นน่าจะฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในรอบนี้ไปได้อีกครั้งอย่างแน่นอน