HoonSmart.com>>เมืองไทยประกันชีวิต ประกาศกลยุทธ์ “Health 5.0” เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรม ความคุ้มครองสุขภาพที่เข้าถึงได้และเท่าเทียม ล่าสุดเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ โดยมี “เบลล่า” ราณี แคมเปน ร่วมส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม ชูความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่ายที่ออกแบบได้ และแคมเปญ “A True Story” ถ่ายทอดเรื่องราวและประสบการณ์จริงจากลูกค้า
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่า ในยุคปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของผู้คนหันมาให้ความสำคัญเรื่องของการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการมองหาความคุ้มครองสุขภาพที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต จึงได้เปิดตัวกลยุทธ์ “Health 5.0” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ นวัตกรรมความคุ้มครองด้านสุขภาพ ที่ช่วยขจัดปัญหาที่เป็น Pain Point ของลูกค้า ที่แม้ทุกคนจะมีความแตกต่าง แต่มีความต้องการด้านความคุ้มครองสุขภาพที่เหมือนกัน ด้วยการออกแบบแบบประกันที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ และมีความเฉพาะตัว (Personalization) ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย (Generation) ทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ จะเป็นคนตัวเล็ก หรือตัวใหญ่ ไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็สามารถเข้าถึงความคุ้มครองจากเมืองไทยประกันชีวิตได้
พร้อมพัฒนาและผสมผสานรูปแบบของการบริการและเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน MTL Click ที่รวบรวมทุกบริการสะดวก ครบ จบในแอปเดียว บริการ MTL Health Buddy ผู้ช่วยสุขภาพครบวงจร สามารถปรึกษาสุขภาพกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เมืองไทยสไมล์คลับศูนย์รวมกิจกรรมความสุข รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และแอปพลิเคชัน MTL Fit ตัวช่วยด้านดูแลสุขภาพ รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ (Ecosystem Partners) ที่จะช่วยทำให้ลูกค้าของเมืองไทยประกันชีวิต ได้รับความสะดวก และเข้าถึงการบริการได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ “เพราะสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ” เมืองไทยประกันชีวิต จึงได้จัดทำแคมเปญ “A True Story” เพื่อสะท้อนถึงเรื่องราวด้านความคุ้มครองสุขภาพจากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ด้วยการเปิดมุมมองและประสบการณ์จากลูกค้าตัวจริง ถึงการให้ความสำคัญต่อการเลือกซื้อความคุ้มครองสุขภาพ ในยุค Next Normal ที่ความเจ็บป่วยใกล้ตัวกว่าที่คิดและโรคอุบัติใหม่ที่มาได้แบบไม่ทันตั้งตัว
โดยมีผู้ร่วมแชร์ประสบการณ์จากหลากหลายแวดวงและบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น คุณชาลอต โทณวณิก ตัวแทนวัยอิสระ ที่มองว่าในวันที่ถึงวัยเกษียณก็อยากใช้ชีวิตที่สนุกสนานและมีสุขภาพที่แข็งแรง ค่ารักษาพยาบาลทุกวันนี้ อาจทำให้เงินที่สะสมมาทั้งชีวิตหมดไป ด้านคุณลิเดีย ศรัณย์รัชต์-คุณแมทธิว ดีน ตัวแทนสำหรับผู้ที่มีครอบครัวให้มุมมองว่า เรื่องสุขภาพคาดเดาไม่ได้ แข็งแรงแค่ไหนก็เจ็บป่วยได้ ยิ่งมีลูก ความคุ้มครองสุขภาพยิ่งสำคัญ พวกเราเลือกความคุ้มครองสุขภาพที่ช่วยตอบโจทย์ทุกช่วงชีวิต คุณโบว์ กัญญารัตน์ ปิยะนันทสมดี ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ หัวใจฟรีแลนซ์ เปิดมุมมองว่า เมื่อก่อน ไม่เคยเห็นความสำคัญของความคุ้มครองสุขภาพ แต่พอป่วยขึ้นมา เจอค่ารักษาพยาบาล ก็รู้เลยว่าโชคดีที่ซื้อไว้ และคุณซินดี้ ปณิธิ จันทร์พิทักษ์ ตัวแทนของชาว LGBTQ+ เปิดมุมมอง ไม่ว่าจะเพศไหนก็สามารถรับความคุ้มครองสุขภาพได้ เพราะเงื่อนไขอยู่ที่สุขภาพของแต่ละคน และนี่สิ่งที่เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญ โดยสามารถติดตามอีกหลากหลายเรื่องราวใน “A True Story” ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ www.muangthai.co.th YouTube Facebook Instagram Twitter และ LINE Official Account
นายสาระ กล่าวว่า ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต ได้เปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ “Life Stage” ทุกช่วงเวลา ของชีวิต สุขภาพเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ โดยมี “เบลล่า” ราณี แคมเปน หนึ่งในลูกค้าตัวจริง มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวบนถนนของชีวิต และทุกก้าวที่เดินไปได้พบเห็นแต่ความสุขของผู้คนหลากหลาย Generation เพราะผู้คนเหล่านี้มีความคุ้มครองสุขภาพ Elite Health Plus และ D Health Plus คอยคุ้มครองดูแล โดยโฆษณาชุดนี้จะเผยแพร่ผ่านหลากหลายช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นี้เป็นต้นไป
โดยความคุ้มครองสุขภาพ Elite Health Plus และ D Health Plus โดดเด่นที่การเป็นความคุ้มครองสุขภาพ แบบเหมาจ่าย และสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ตามต้องการ เช่น ตรวจสุขภาพ ทำฟัน ดูแลสายตา หรือคุ้มครองคลอดบุตร คุ้มครองทั้งค่าห้องและค่ารักษา ครอบคลุมทั้งโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคร้ายแรง โรคระบาด โรคฝีดาษลิง โรคอุบัติใหม่ โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ ช่วยให้คุณเต็มที่กับทุกช่วงเวลาของชีวิตมากขึ้น และไม่เป็นภาระกับใครในวันที่ต้องเจ็บป่วย เลือกความคุ้มครองสุขภาพที่คุณต้องการ โดย Elite Health Plus ความคุ้มครองเหนือระดับ ที่คุ้มครองครอบคลุมค่าห้องและค่ารักษา เหมาจ่ายสูงสุด 20-100 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ D Health Plus ให้ความคุ้มครองเหมาจ่ายสูงสุด 1-5 ล้านบาทต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง