HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์อ่อนตัวลง นำโดย KCAR-ASAP-ASK-ECL-SAWAD กังวลต้นทุนการเงินที่จะสูงขึ้นหลังทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นชัดเจน จากเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย หวั่นกนง.จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในเดือนส.ค.นี้ เก็งช่วงที่เหลือปีนี้อาจจะขึ้นดอกเบี้ย 1.25% กระทบต้นทุนการเงินกลุ่มไฟแนนซ์แน่ แต่อาจไม่มากเมื่อเทียบกับปีหน้าที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง จึงยังไม่แนะนำให้เล่นกลุ่มไฟแนนซ์ แต่ควรหันไปกลุ่มแบงก์ที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น
หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ปิดเช้าอ่อนตัวลง นำโดยหุ้น KCAR ลบ 2.13% มาอยู่ที่ 9.20 บาท ลดลง 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 4.05 ล้านบาท
หุ้น ASAP ลบ 2.12% มาอยู่ที่ 3.70 บาท ลดลง 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 13.93 ล้านบาท
หุ้น ASK ลบ 2.11% มาอยู่ที่ 34.75 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 28.33 ล้านบาท
หุ้น ECL ลบ 1.53% มาอยู่ที่ 2.58 บาท ลดลง 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 15.60 ล้านบาท
หุ้น SAWAD ลบ 1.00% มาอยู่ที่ 49.50 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 274.23 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น แต่เชื่อว่าไทยจะไม่ต้นทุนสูงมากเหมือนอย่างต่างประเทศที่มีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ขณะที่ไทยยังมีความไม่แน่ใจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเท่าไร แต่คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนส.ค. ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะปรับขึ้น 0.25% หรือ 0.50% แต่เชื่อว่าไทยคงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งรวม 1.25% หรืออาจมากกว่านี้
สำหรับหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ที่อ่อนตัวลง จากความกังวลผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่อาจจะสูงขึ้นในปีนี้ แต่กลุ่มไฟแนนซ์ รวมถึงลิสซิ่ง ต่างก็มีการระดมทุนจากเงินกู้ระยะยาว และการออกตราสารหนี้ ทำให้มองว่าต้นทุนการเงินของกลุ่มไฟแนนซ์อาจสูงบ้างในปีนี้ แต่ปีหน้ากลุ่มไฟแนนซ์อาจรับผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่มากกว่าปีนี้ จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึีงยังไม่แนะนำหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ แต่หันไปมองหุ้นในกลุ่มธนาคารจะน่าลงทุนมากกว่า เพราะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
บล.โนมูระ พัฒนสิน มองเงินเฟ้อไทยเดือนพ.ค.65 ที่ 7.1% เป็นระดับที่ค่อนข้างสูงมาก โดยคาด กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบประชุมที้เหลือของปีนี้ ครั้งละ 25 bps ยังถือว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าคาดการณ์การเร่งขึ้นดอกเบี้ยประเทศพัฒนาแล้ว