HoonSmart.com>>หุ้น THANI บวก 2.79% เชื่อสถานการณ์ปีนี้เริ่มดีขึ้นหลังยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาส 1/65 เกินเป้า คาดคุม NPL ได้ดีทำให้ Credit cost ลดลงจากปีก่อน ส่งปีนี้กำไรเติบโตโดดเด่น แนวโน้มไตรมาส 2/65 ยังดูดี จากหลายภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับรถบรรทุกดีขึ้น โดยยังคงประมาณการกำไรปี 65 ที่ 1,944 ล้านบาท โต 14% YoY จากโมเมนตัมปล่อยสินเชื่อเติบโตได้ดี
เมื่อเวลา 10.36 น.หุ้น THANI บวก 2.79% มาอยู่ที่ 4.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 136.71 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 4.38 บาท ขึ้นสูงสุด 4.46 บาท และต่ำสุด 4.34 บาท
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) เชื่อว่าสถานการณ์ปีนี้เริ่มดีขึ้น หลังยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาส 1/65 ได้มากกว่าเป้าแล้ว ประกอบกับการติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิดน่าจะทำให้คุม NPL ได้ดี ทำให้ Credit cost ลดลงจากปีก่อน และส่งผลให้ปีนี้ THANI กลับมามีกำไรเติบโตโดดเด่นได้ ราคาปัจจุบันที่มี upside จากราคาเป้าหมาย 5.20 บาท ถึง 21%
แนวโน้มไตรมาส 2/65 ยังดูดี หลังหลายภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับรถบรรทุกดีขึ้น ภาพรวมในปัจจุบันยังเห็นภาพสินเชื่อที่โตดี แม้เดือนเม.ย.จะมีวันหยุดหลายวันและจะมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ไม่มากนัก แต่เม.ย.ปีนี้ถือว่าดีกว่าทุกปี โดยรวมโมเมนตัมไตรมาส 2/65 ดูดี ภาคเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามามาก คาดแนวโน้มสินเชื่อรถบรรทุกไตรมาส 2/65 ดีกว่าไตรมาส 1/65 หลังจากภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถบรรทุกดูดีขึ้น อาทิ ภาคการเกษตร ที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งยางพารา ข้าว รวมถึงผลไม้อย่างทุเรียน ที่มียอดส่งออกสูงมาก, ภาคก่อสร้างที่มีสัญญาระยะยาวราว 2-3 ปี, ภาคการค้าชายแดนที่ดูดีขึ้นทั้งพม่า มาเลย์ ลาว เขมรและจีน, ภาคพลังงานที่ยังมีการใช้ที่เพิ่มขึ้นแม้ไม่มากนัก, ภาคสินค้าอุปโภคบริโภคหลังเริ่มเปิดประเทศ ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่กลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ ซึ่งดีกับรถตู้ทึบติดแอร์ที่ใช้ขนส่ง ภาพธุรกิจโดยรวมเอื้อต่ออุตสาหกรรมรถบรรทุก แต่อย่างไรก็ดียังมีปัญหาด้าน supply ทั้งรถบรรทุก และ luxury car อยู่ทำให้มีการหันมาทางรถ used กันมากขึ้น
ทั้งนี้ จะประกาศปรับเป้าสินเชื่อใหม่โตเพิ่มขึ้น 20% ในไตรมาส 3/65 นี้ คาดสิ้นปีแตะ 5.2-5.5 หมื่นล้านบาท เดิมตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ปี 65 โต 15% YoY หรือราว 2.6-2.7 หมื่นล้านบาทต่อปี แต่จากไตรมาส 1/65 ที่มีสินเชื่อปล่อยใหม่ราว 7 พันล้านบาทต่อไตรมาสหรือโต 19% YoY ประกอบกับยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีคาดไตรมาส 3/65 ประกาศเพิ่มเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่โต 20% YoY หรือราว 2.8 หมื่นล้านบาทต่อปี และคาดสินเชื่อคงค้างสิ้นปี 65 ทะลุ 5 หมื่นล้านบาทได้ มาอยู่ที่ราว 5.2-5.5 หมื่นล้านบาทได้
โดยยังคงเน้นรถบรรทุกและรถ Luxury car ที่ยังเติบโตได้ดี ในส่วนรถบัสและรถแท๊กซี่เริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังภาคท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้น ปีนี้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ Floor plan และ Personal Loans ที่เริ่มทำในไตรมาส 1/65 ส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถบรรทุก ล่าสุดได้ใบอนุญาตแล้ว กำลัง test ระบบ คาดปล่อยจริงเดือนก.ค. ช่วยเสริมพอร์ตในครึ่งปีหลัง (H2/65) ทั้งนี้ยังคงจับตาดูปัจจัยทางเศรษฐกิจ วิกฤติรัสเซีย-ยูเครน และราคาน้ำมัน อย่างใกล้ชิดแต่มองว่าปัจจัยที่น่าจะมีผลกระทบทางลบน่าจะเป็นแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นแต่น่าจะกระทบปีหน้า มองปีนี้ยังน่าจะไม่มีผลกระทบมากนัก
หลังหมดมาตรการช่วยเหลือ ปรับกลยุทธ์ยึดรถเร็ว กด NPL ลงต่ำกว่าช่วง Pre-covid เหลือเพียง 2.99% ทั้งนี้ ช่วงสถานการณ์โควิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ตามเกณฑ์ธปท. ทำให้มีการช่วยเหลือลูกหนี้ในทุกรูปแบบ รวมถึงไม่ได้ติดตามทวงถามหนี้ หลังหมดมาตรการเริ่มเข้าไปติดตามทวงถามหนี้อย่างใกล้ชิดทำให้คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น
ล่าสุด ณ ไตรมาส 1/65 NPL เหลือเพียง 2.99% ซึ่งต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดที่อยู่ราว 3-4% ขณะที่ credit cost ที่สูงขึ้นเป็นผลจากการตั้งสำรองส่วนเกิน (Management overlay) เพื่อรองรับสถานการณ์โควิด ล่าสุดมีสำรองส่วนเกินอยู่กว่า 270 ล้านบาท เชื่อหากสถานการณ์ไม่เลวร้ายมากขึ้น คงไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่ม ล่าสุด Coverage ratio เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 101% สูงกว่าระดับที่เหมาะสมของบริษัทที่ 80% แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดแล้ว ขณะที่เชื่อว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้น หากรัฐบาลยังตรึงดีเซลระดับ 32-35 บาท จะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
โดยยังคงประมาณการกำไรปี 65 ที่ 1,944 ล้านบาท โต 14% YoY แม้กำไรไตรมาส 1/65 คิดเป็น 23.4% ของประมาณการกำไรทั้งปี ทั้งนี้เป็นผลจากโมเมนตัมในการปล่อยสินเชื่อยังเติบโตได้ดี มีโอกาสปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อขึ้น ภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงภาคเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรถบรรทุกดูดีขึ้น