HoonSmart.com>>ในปี 2564 ถึงวันที่ 23 พ.ค. 2565 เป็นปีทองของหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก(IPO) เห็นได้บริษัทหลายแห่งราคากระโดดขึ้นชนซิลลิ่ง 200% ในวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แต่เมื่อเวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ กลับลงมาต่ำกว่าราคาขาย สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐาน แต่ก็มีบริษัทที่กำไรสุทธิไตรมาส 1/2565 เติบโตขึ้นมาก ราคาหุ้นกลับไม่ยินดีด้วย
อาทิ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) มีกำไรสุทธิถึง 116 ล้านบาท พุ่งขึ้น 205% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ราคาหุ้นกลับต่ำกว่า IPO 17.6% ปิดที่ 2.04 บาท เทรดที่ P/E ไม่ถึง 20 เท่า บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) กำไรสุทธิ 111 ล้านบาท ทะยานขึ้น 177.5% ราคาหุ้นปิดที่ 7.90 บาท P/E ประมาณ 8.5 เท่า และบริษัท บริทาเนีย(BRI) มีกำไรสุทธิ 352 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 170.8% ราคาหุ้นปิดที่ 11 บาท สูงกว่าราคาจองเพียง 4.6% เทรดที่ P/E 11 เท่าเศษ
นับตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้น185.93 จุดคิดเป็น 11.37% ปิดที่ 1,635.28 จุด มีหุ้น IPO เข้าซื้อขายใน SET ทั้งสิ้น 26 บริษัท ส่วนใหญ่เปิดด้วยราคากระโดด บางบริษัทพุ่งขึ้นชนเพดาน 200% แต่ปิดสิ้นวันมีเพียง 4 บริษัทที่ราคาวันแรกต่ำกว่าราคาเสนอขาย ได้เแก่ บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง (CIVIL) ขายราคา 4.60 บาท ราคาปิดที่ 4.50 บาท บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) ขายที่ 16 บาท เปิดที่ 17.60 บาท กลับปิดที่ 15.90 บาท บริษัท โนวา ออร์แกนิค ( NV) ขาย 6.90 บาท ปิดที่ 6 บาท และ UBE ขายราคา 2.40 บาท ปิดที่ 2.06 บาท
แต่มาถึงวันที่ 23 พ.ค. พบว่า 11 หุ้นราคาไหลลงมาต่ำกว่าราคา IPO นอกจาก UBE,NV, DMT หุ้นที่ต่ำจองตั้งแต่วันแรกแล้ว ยังมี บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) -31.4% บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) ลดลง 65.3% บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต (STECH) -25.2% บริษัท แอสเซทไวส์ (ASW) ลดลง 22.8% บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) -22.7% บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) -18.4% และบริษัท เงินติดล้อ(TIDLOR )-9.0% บริษัท บีบีจีไอ (BBGI) – 21.4%สาเหตุสำคัญมาจากกำไรสุทธิไตรมาส 1/2565 ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และได้รับผลกระทบจากการตลาดหุ้นโดยรวมที่ลดลงในปี 2565 ประมาณ 22.34 จุด หรือxระมาณ 1%เศษ
อย่างไรก็ตามมีบางบริษัทที่กำไรออกมาดีมาก แต่ราคากลับขึ้นไม่ไหว อาทิ UBE กำไรพุ่งขึ้น 205% ราคาหุ้นปิดที่ 2.04 บาท ยังคงต่ำกว่าราคาเสนอขาย IPO ที่ 2.40 บาท ในทางกลับกันมีบางบริษัทกำไรลดลง ราคาหุ้นยังคงแข็งแกร่ง อาทิ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP ) มีกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท ลดลง 41% และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) กำไรลดลง 15.8% เหลือจำนวน 3,845 ล้านบาท เหตุผลที่ราคาหุ้นกลับเพิ่มขึ้น เพราะตลาดตีความว่ากำไรออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
ภาพ IPO ที่เกิดขึ้น เตือนสตินักลงทุนที่ใจกล้ากระโดดเข้าซื้อหุ้นไม้แรก พึ่งระวังจะติดยอดดอย หากหนีไม่ทัน ต้องกอดไว้ แต่ถ้าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและเงินปันผลติดไม้ติดมือบ้าง ก็อุ่นใจถือลงทุนได้ แต่ถ้าไม่ใช่ ต้องมีกลยุทธ์เผ่นให้ดี…