ต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หนุนดัชนีติดลบแค่ 3 จุด ดีกว่าตลาดเอเชียส่วนใหญ่ ฮ่องกงร่วงมากสุด 1.30% จีนรูด 1.1%
วันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นและค่าเงินในภูมิภาคเอเชียทรุดลงแรง หลังจากรัฐบาลจีนอาจปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการเจรจาการค้ารอบใหม่ตามข้อเสนอของสหรัฐ หากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติม อีก 267,000 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือจาก 200,000 ล้านดอลลาร์ที่ประกาศก่อนหน้านี้
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงหนักสุด 1.30% หรือ 353.56 จุด ปิดที่ 26,932.85 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดรูดลง 29.85 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 2,651.79 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 15.24 จุด หรือ 0.66%% ปิดที่ 2,303.01 จุด ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,828.61 จุด ลดลง 39.53 จุด หรือ 0.36% ส่วนดัชนีหุ้นไทยระหว่างวันลงไปลึกกว่า 10 จุด สุดท้ายปิดที่ 1,718.39 จุด ลดลงเพียง 3.82 จุดหรือ 0.22% ส่วนดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดบวก 0.41 จุดหรือ 0.01% ปิดที่ 7,413.56 จุด
มาร์เก็ตติงกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยลดลงเล็กน้อย เนื่องจากมีแรงซื้อกลับของนักลงทุนในประเทศ และต่างชาติยังคงมีการซื้อสุทธิต่อเนื่องวันที่ 3 จำนวน 304 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงปลายตลาดมีแรงไล่ซื้อหุ้นใหญ่ ในกลุ่มแบงก์ และพลังงาน อาทิ บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP )จากที่เคลื่อนไหวติดลบเกือบทั้งวัน กลับมาบวก 2 บาทปิดที่ 152 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ได้รับความสนใจเก็งกำไรหลายรอบและปิดที่ระดับสูงเช่นเดียวกัน คาดแนวโน้มตลาดยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง