“คีรี” โยกหุ้น BTS ปีนี้ซื้อบ่อย 28 ครั้ง ร่วม 572 ล้านบาท ไม่รวมโอนไปฝากสิงคโปร์ 200 ล้านหุ้น ขายล็อตใหญ่ 459 ล้านบาท ปีนี้บริษัทผลงานสุดยอด ฟาดกำไรพิเศษขายทรัพย์ให้ U ร่วม 1,800 ล้านบาท ยู ซิตี้หยุดขาดทุน VGI ถึงเวลาเก็บเกี่ยวการลงทุน
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ( BTS) รายงานสำนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรื่องการซื้อและขายหุ้นรวมถึงการโอนออกไปต่างประเทศ ในปี 2561 สูงถึง 32 รายการ โดยเฉพาะการซื้อมีจำนวน 28 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 572.78 ล้านบาท ในราคาหุ้นละไม่เกิน 8.30 บาท
นอกจากนั้นนายคีรียังมีการโอนหุ้นออกไปต่างประเทศไปฝากไว้กับคัสโตเดี้ยนคือ ธนาคารเครดิตสวิส สาขาสิงคโปร์ 2 รายการ ๆละ 100 ล้านหุ้นรวมจำนวน 200 ล้านหุ้น นับว่าเป็นการโอนออกไปอย่างต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2560 ที่ผ่านมา โอนไปฝากไว้กับธนาคารฮ่องกงและเซี้ยงไฮ้ สาขาฮ่องกง 100 ล้านหุ้น
นายคีรี ยังทำรายการซื้อหุ้นล็อตใหญ่ จาก Mr.Ka Yan Kwok เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2561 จำนวน 5 ล้านหุ้นในราคา หุ้นละ 8.20 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 41 ล้านบาท รายงานว่าเป็นการทำธุรกรรมตามปกติ และในวันที่ 29 มี.ค.2561 มีการขายหุ้นให้กับ Capital Group จำนวน 55 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 8.35 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 459.25 ล้านบาท ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าเป็นการขายหุ้นในกลุ่มนายคีรีเอง
สำหรับนายคีรี เป็นผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีรายการซื้อหุ้นของตัวเองมากที่สุด จากโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 22 ม.ค.2561 นายคีรีถือหุ้นBTS มากที่สุด จำนวน 3,181 ล้านหุ้นคิดเป็น 26.64% และลูกชาย นายกวิน ถือเป็นอันดับที่สามจำนวน 5.05% เป็นรองไทยเอ็นวีดีอาร์
ปัจจุบัน การซื้อขายหุ้น BTS เป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบันมากขึ้น หลังจากบริษัทเปิดเผยคาดการณ์แนวโน้มกำไรในช่วง 5 ปีข้างหน้าที่จะเติบโตก้าวกระโดด และบริษัทในกลุ่มพลิกฟื้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
“นักลงทุนสนใจหุ้นที่มีกำไรสวยๆในช่วงสั้นๆ เช่นไตรมาส 1และ2 ไม่ได้โฟกัสหุ้นที่จะมีการเติบโตที่ดีในปีหน้าที่มีความไม่แน่นอน หนึ่งในนั้นคือหุ้น BTS ที่ขึ้นจอเรดาร์ไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ราคาหุ้นมีความแข็งแกร่ง ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแถว 7 บาทขึ้นมาจ่อ 8 บาท ” แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัทบีทีเอสฯ ย้ำว่า BTS เป็นหุ้นเติบโตสูง(growth stock)และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลประมาณ 3-4% ต่อปี นับว่าสูงติดอันดับต้นๆของหุ้นในกลุ่ม 50 เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มที่ดี จากธุรกิจระบบขนส่งมวลชน สื่อโฆษณา และอสังหาริมทรัพย์
“สิ่งที่บีทีเอสลงทุนมาในอดีตเริ่มส่งผลต่องบการเงินในช่วง 1-2 ปีนี้ บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ( VGI) เห็นชัดเจนในปีนี้ จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ดี โดยบีทีเอสถือหุ้น70% ส่วน การขายทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ให้กับ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด ( U) คาดจะมีกำไรพิเศษ จำนวน 1,800 ล้านบาทเข้ามาในงบไตรมาส4ของบริษัทคือม.ค.-มี.ค.2561 และปีนี้ U จะไม่ขาดทุนเป็นปีแรก จากที่ผ่านมา BTS รับขาดทุนปีละ 100 ล้านบาท และธุรกิจโรงแรมในยุโรปเป็นบวก”นายสุรยุทธกล่าว
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ของ BTS และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTSC และหุ้นกู้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิของ BTSC ที่ ‘A-(tha)’ แนวโน้มเครดิตยังคงเป็นลบ เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินที่สูง จากการกู้ยืมเพื่อลงทุนในธุรกิจขนส่งมวลชน หากกระแสเงินสดรับมีความล่าช้าหรือต่ำกว่าที่ฟิทช์คาด อาจส่งผลให้การปรับลดอัตราส่วนหนี้สินล่าช้าออกไปในช่วง3-5 ปีข้างหน้า แต่บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่มั่นคง