ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 2% กังวลปัญหาเศรษฐกิจและสงครามการค้ากดดันอุปสงค์โลก สำนักงานพลังงานสากล คาดปริมาณการใช้น้ำมันของโลกจะแตะระดับ 100 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2561
บริษัทไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 2% จากระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังนักลงทุนกังวลต่อวิกฤตตลาดเกิดใหม่และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ความต้องการใช้น้ำมันอ่อนตัวลง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1.78 ดอลลาร์หรือ 2.5% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1.56 ดอลลาร์หรือ 2%ปิดที่ 78.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดปริมาณการใช้น้ำมันของโลกจะแตะระดับ 100 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2561 และคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2561 และ 2562 ยังคงแข็งแกร่งที่ 1.4 และ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลกดดันต่ออุปสงค์ คือ ปัญหาค่าเงินของตลาดเกิดใหม่และสงครามการค้าที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาเผยแพร่ข้อความว่า สหรัฐฯ ไม่ได้เผชิญแรงกดดันที่จะต้องทำข้อตกลงการค้ากับจีน แต่เป็นจีนที่ถูกกดดันให้ต้องทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ
ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้า ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 76-81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล