HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 4.12 จุด แกว่งแคบก่อนหยุดยาวสงกรานต์ นักลงทุนขายลดความเสี่ยงก่อนตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ-ยุโรปจะออกมา ตลาดคาดเร่งขึ้น นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 916.02 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 95.97 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งแคบ โดยมีแนวรับ 1,675 แนวต้าน 1,690 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 12 เม.ย.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,674.34 จุด ลดลง 4.12 จุด หรือ -0.25% มูลค่าซื้อขาย 60,856.39 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,678.44 จุด ต่ำสุด 1,669.36 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 743.46 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 76.59 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 95.97 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 916.02 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งแคบก่อนที่จะหยุดระยะยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นักลงทุนได้ขายลดความเสี่ยงก่อน ซึ่งในช่วงวันหยุดระยะยาวมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศออกมา อย่างตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ, ยุโรป ที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น ทำให้กังวลการกำหนดนโยบายการเงินของต่างประเทศ ซึ่งจะมีผลต่อ Fund Flow ด้วย และยังมีสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย และยูเครนที่จะต้องติดตามว่าจะเป็นอย่างไร ทำให้ upside จำกัด
นอกจากนี้ จะเข้าสู่ช่วงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/65 ซึ่งก็จะเริ่มที่กลุ่มแบงก์ ทำให้อาจมีแรงเก็งกำไรได้ ซึ่งกลุ่มแบงก์คาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 จะออกมาดีขึ้น
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ยกเว้นตลาดหุ้นจีน และฮ่องกง ที่บวกได้เล็กน้อย หลังจากมีข่าวออกมาเกี่ยวกับมาตรการดูแลผู้ป่วยโควิด ท่ามกลางการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เร่งตัวขึ้น ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ติดลบ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าตลาดมีโอกาสผันผวนจากแรงเก็งกำไร ถ้าสถานการณ์ไม่เลวร้ายในระหว่างที่ตลาดปิดทำการ พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680-1,700 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
EA ปิดที่ 90.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ +3.75% มูลค่าซื้อขาย 4,561.13 ล้านบาท
JMT ปิดที่ 84.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท หรือ +5.96% มูลค่าซื้อขาย 2,244.07 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 155.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.64% มูลค่าซื้อขาย 2,123.64 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 37.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.99% มูลค่าซื้อขาย 1,971.66 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.49% มูลค่าซื้อขาย 1,850.15 ล้านบาท