HoonSmart.com>>”เจดีฟู้ด” เตรียมเปิดขาย IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น วันที่ 29-31 มี.ค.65 ราคา 2.60 บาท P/E 25.78 เท่า เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 7 เม.ย.นี้
บริษัทเจดีฟู้ด (JDF) ประกอบธุรกิจผลิตเครื่องปรุงอาหาร ซอส ไส้ขนม และอาหารอบแห้งกำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 7 เม.ย. 2565 ในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม
นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของ JDF กล่าวว่า ราคาที่เสนอขายหุ้นละ 2.60 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 25.78 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.-31ธ.ค. 2564) สำหรับกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และ อาหารและเครื่องดื่มใน SET มีค่า P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี (17 มี.ค.64-16 มี.ค.65) ที่ 37.74 เท่า
นางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีฟู้ด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปลงทุนในการวิจัยและพัฒนารวมถึงเครื่องจักรของกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง ขยายช่องทางตลาดไปยังต่างประเทศ ทั้งประเทศในกลุ่ม CLMV ประเทศจีนตอนใต้และประเทศอินเดีย และลงทุนในระบบเทคโนโลยีและระบบกึ่งอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิต พัฒนาระบบการเชื่อมโยงด้านข้อมูล เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตและยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งใช้ชำระคืนเงินกู้ให้กับสถาบันการเงิน โดยระยะเวลาในการใช้เงินปี 2565-2567
“บริษัทวางกลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูป โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเป็นหัวใจสำคัญและสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมอาหารอย่างยั่งยืน เพื่อเติบโตในระดับโลก”
ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการลงทุนในการสร้างโรงงานใหม่บนพื้นที่กว่า 33 ไร่ ที่จังหวัดสมุทรสาคร เพิ่มกำลังการผลิตเครื่องปรุงรสกว่า 75% จากกำลังการผลิตของโรงงานเดิม โดยให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ (Healthy Snack) โปรตีนหรือผักผลไม้อบกรอบ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพืช (Plant-Based) โดยบริษัทฯ คาดว่าการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ข้างต้นจะก่อให้เกิดรายได้เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2566 และบริษัทตั้งเป้าเป็นหุ้นที่มีการเติบโตควบคู่กับการคืนผลตอบแทนแก่นักลงทุน
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ความน่าสนใจของ JDF ซึ่งเป็นหุ้นด้านนวัตกรรมอาหารน้องใหม่ที่มีจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดเครื่องปรุงรสมายาวนาน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารและร้านอาหารยักษ์ใหญ่มากมาย กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีเอกลักษณ์เฉพาะ สามารถช่วยลูกค้าในการพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนสูตรอาหารให้ตรงตามความต้องการ โดยพัฒนามาแล้วกว่า 2,000 รสชาติ ให้ลูกค้ากว่า 300 ราย อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของ JDF เอง
นอกจากนี้โรงงานแห่งใหม่ของ JDF มีมาตรฐานรับรองคุณภาพในระดับสากล สามารถเพิ่มกำลังการผลิตพร้อมรองรับโอกาสการเติบโตในยุค New Normal เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูประดับประเทศซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลก
ด้านผลการดำเนินงานปี 2564 มีรายได้จากการขายและบริการ 576.92 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 45.39 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 29.49% อัตราส่วนกำไรสุทธิ 7.75% คาดหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มโอกาสการเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูปด้วยจุดเด่นที่เหนือกว่าในด้านนวัตกรรมอาหารและการพัฒนาผลิตภัณฑ์