บล.ทิสโก้ แนะนักลงทุนอาศัยจังหวะ SET ย่อตัวช้อนซื้อหุ้นใหญ่เข้าพอร์ต พร้อมเปิดข้อมูลอดีตหุ้นไทยให้ผลตอบแทนราว 6% หากซื้อล่วงหน้า 6 เดือนก่อนเลือกตั้ง ฟันธงปีหน้าเริ่มเห็นต่างชาติซื้อสุทธิ
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยในงานสัมมนา TISCO Monthly Guru Updates ว่า แม้ในเดือนส.ค. 2561 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันแล้ว แต่ฝ่ายวิเคราะห์บล.ทิสโก้มองว่านักลงทุนต่างประเทศน่าจะเริ่มกลับมามีสถานะซื้อสุทธิได้ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 เพราะคาดว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนก.พ. 2562 นอกจากนี้ หากกลับไปดูสถิติในช่วง 26 ปีย้อนหลังนับตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบันพบว่า ประเทศไทยมีการเลือกตั้งทั้งหมด 9 ครั้ง และมีโอกาส 70% ที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทย นอกจากนี้ จากสถิติยังพบว่า หากจะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนดีที่สุดนักลงทุนจะต้องทยอยสะสมหุ้นล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งอย่างน้อย 6 เดือน
“บล.ทิสโก้คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิราว 1 แสนล้านบาทในช่วง 6 เดือนก่อนถึงวันเลือกตั้งเดือนก.พ. 2562 เพราะหากเกิดการเลือกตั้งจริงจะช่วยปลดล็อกการลงทุนของบางกองทุน และต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมามากแล้ว โดยตั้งแต่เดือนม.ค.ถึงเดือนส.ค. 2561 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไปรวมแล้วกว่า 1.9 แสนล้านบาทและในช่วง 5 ปี 8 เดือน(จนถึงเดือนส.ค. 2561) นักลงทุนต่างชาติขายไป 5.4 แสนล้านบาท ทำให้มีอัตราการถือครองหุ้นไทยต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ทั้งนี้ ประเมินว่าจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติในครั้งนี้จะหนุนให้ดัชนี SET ขึ้นไปทดสอบที่ 1,800 จุดในช่วงสิ้นปี 2561 และปรับขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,850 จุดได้ในไตรมาสที่ 1/2562” นายวิวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้แนะนำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่อีกครั้ง หลังจากเดือนก่อนหน้าแนะนำให้หลีกเลี่ยง เนื่องจากในเดือนนี้ผลกระทบจากการขายปรับพอร์ตตามที่ MSCI นำหุ้น A-Shares ของจีนเข้าคำนวณในเฟสที่ 2 ผ่านพ้นไปแล้วในสิ้นเดือนส.ค. 2561 ที่ผ่านมา และจากมุมมองที่คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาซื้อสุทธิอีกครั้ง หุ้นเด่นในเดือนก.ย. 2561 จึงแนะนำหุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากกระแสเงินไหลเข้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ได้แก่ BJC,CK,COM7,HANA,IRPC,MINT,PRM และ TCAP สำหรับมุมมองหุ้นไทยในเดือน ก.ย. 2561 คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,665-1,730 จุด
ส่วนตลาดหุ้นที่น่าสนใจในปี 2562 บล.ทิสโก้มองว่า ตลาดหุ้นจีน ไทย และญี่ปุ่นน่าสนใจ ทั้งในแง่ของมูลค่าหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนักนับตั้งแต่ปี 2556 โดยตลาดหุ้นไทยและจีนดัชนีปรับขึ้นไปประมาณ 18-20% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นไปถึง 90-150% ในส่วนของการเติบโตด้านกำไรของบริษัทจดทะเบียนก็อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยคาดว่าปี 2562 ตลาดหุ้นจีน ญี่ปุ่น และไทยจะมีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (Earnings Growth) เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 10% ซึ่งในปี 2561 บล.ทิสโก้ประเมินว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นจีนจะเติบโต 5-6% ตลาดหุ้นไทยจะเติบโต 8% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเติบโต 3-4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ งานสัมมนา TISCO Monthly GURU Updates เป็นหนึ่งในกิจกรรมสัมมนาที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนเพื่อเผยแพร่บทวิเคราะห์และทิศทางการลงทุนเพื่อช่วยให้ลูกค้าทิสโก้และนักลงทุนบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ตามกลยุทธ์ของทิสโก้ในการเป็นผู้แนะนำการลงทุนชั้นนำหรือ Top Advisory House