HoonSmart.com>>บล.กรุงศรียังคงแนะนำซื้อ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป” ธีมปีนี้พลิกมีกำไร 762 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์ซื้อหุ้น TKN-WORK สัดส่วน 5% ได้ราคาต่ำ ต่อยอดธุรกิจ หนุนรายได้ระยะยาว
บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ ซื้อ MAJOR และให้ราคาเป้าหมาย ที่ 26 บาทจากธีมกำไรฟื้นตัว หลังเริ่มปรับเชิงกลยุทธ์ เพื่อหนุนแผนธุรกิจในอนาคต โดยการลงทุนใน TKN เพื่อเสริมการผลิตป๊อบคอร์นและเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนผลิต เชื่อว่าจะมีการปรับเชิงกลยุทธ์อีก พลิกเป็นกำไรในปีนี้เทียบกับขาดทุนในปี 2564 จากการฟื้น
ตัวของธุรกิจโรงหนังและรายได้ขายสินค้า และผลตอบแทนปันผลดีที่ 4-6% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
MAJOR เพิ่งเข้าซื้อหุ้น WORK จำนวน 22 ล้านหุ้น หรือ 5% ต้นทุนเฉลี่ย 23.66 บาทต่อหุ้น มูลค่า 522 ล้านบาท เทียบเท่า P/E 22 เท่าของประมาณการปีนี้ ซึ่งสมเหตุสมผล และ MAJOR เข้าซื้อหุ้น TKN 5% จำนวน 69 ล้านหุ้น ต้นทุนเฉลี่ย 7.82 บาทต่อหุ้นมูลค่า 539 ล้านบาท หรือ P/E 30 เท่าปีนี้และ 24 เท่าประมาณการปี 2566 ซึ่งไม่แพงเทียบกับช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ P/E 53 เท่า โดย WORK จะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการผลิตคอนเทนท์เพื่อฉายใน Netflix
สำหรับ WORK และ MAJOR เคยผลิตภาพยนตร์ร่วมกันมาก่อน ส่วน TKN จะผลิตปอบคอร์นให้ MAJOR ด้วยต้นทุนที่ดีขึ้น รายได้จากป๊อบคอร์น อยู่ในส่วนรายได้ขายสินค้าซึ่งเติบโต 8% เทียบกับรายได้ค่าเข้าชมภาพยนตร์ลดลง -16% ในปี 2564 และรายได้ขายสินค้ามีสัดส่วน 53% ของรายได้รวม เพิ่มจาก 36% ใน 2563 บริษัทมีแผนในการขายปอบคอร์นนอกโรงภาพยนตร์ในปีนี้ ความผันผวนของกำไร TKN จะไม่กระทบ MAJOR เนื่องจากจะรับรู้กำไรของTKN ทางรายได้เงินปันผล
ทั้งนี้คงคาดการณ์ MAJOR มีกำไร 762 ล้านบาทในปี 2565 พลิกจากขาดทุน 800 ล้านบาทในปี 2564 จากการดำเนินงานกลับสู่ปกติหลังจากมีข้อบังคับเกี่ยวกับโควิดในปีที่ผ่านมา ยังไม่รวมผลจากการผลิตคอนเทนท์ให้ Netflix และโครงการป๊อบคอร์นทั้งในแง่รายได้และการประหยัดต้นทุนในโมเดลของเรา
นอกจากนี้ MAJOR ยังเป็นหุ้นในธีมกำไรฟื้นตัวจากความกังวลโควิด หุ้นมีผลตอบแทนปันผลที่ดี 4-6% โดยประกาศจ่ายปันผล 0.60 บาทต่อหุ้น (XD 21 เม.ย.) เทียบเท่าผลตอบแทน 3% สำหรับเวลาการถือ2 เดือน
ด้านหุ้น MAJOR ซื้อขายที่ราคา 19.80 บาท บวก 0.20 บาทหรือ +1.02% ณ เวลาประมาณ 11.55 น. ของวันที่ 16 มี.ค.2565