HoonSmart.com>>ดัชนี SET ร่วงแรง 32.39 จุด หลายโบรกฯแนะ”ลดพอร์ตลงทุน-ชะลอการลงทุน”หลังตลาด Panic ภาวะสงคราม หลังรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนตะวันออก ส่งสถานการณ์เกิดความตึงเครียดมากขึ้น จับตานาโต้ และประเทศมหาอำนาจ จะมี action อะไรออกมา เล็ง Bottom ภายใน 2 เดือนสถานการณ์ก็จะกลับไปที่เดิม แต่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะสงครามเป็นหุ้นในกลุ่มน้ำมัน-กลุ่ม Domestic play-กลุ่มปันผลสูง ยังลงทุนได้
เมื่อเวลา 15.56 น.ดัชนี SET อยู่ระดับ 1,664.06 จุด ลดลง 32.39 จุด หรือ -1.91% มูลค่าการซื้อขาย 110,127.78 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,690.50 จุด และต่ำสุด 1,656.62 จุด
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดเกิด Panic จากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้น หลังมีข่าวรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนตะวันออก ซึ่งทางฝ่ายวิจัยได้แนะนำให้ขายล็อกกำไรไว้ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาแล้ว และตอนนี้ก็ให้ Wait & See รอดูกลุ่มนาโต้ และยูเอ็นจะมี Action อะไรออกมา ซึ่งเชื่อว่าเมื่อออกมาแล้วจะทำให้ตลาดรีบาวด์ได้ ตอนนี้จึงเป็นลักษณะฝุ่นตลบไปก่อน แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มเรียบร้อยขึ้นก็จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา
“ความขัดแย้งทุกครั้งที่เกิดขึ้น เมื่อเริ่มมีข่าว หุ้นจะปรับตัวลงก่อน แล้วก็จะรีบาวด์กลับขึ้นไปได้ รอบนี้ก็ต้องรอดู Action จากนาโต้ และยูเอ็น ในทางเทคนิคมอง 1,640-1,600 จุด คนที่ยังไม่ขายหุ้นก็ให้ลดพอร์ตบางส่วน แต่ไม่ถึงขั้นต้องล้างพอร์ต และหากอยากจะเล่นเก็งกำไรก็เข้าหุ้นในกลุ่มน้ำมัน และ Defensive อย่างกลุ่มอาหารได้ เพราะทั้งสองกลุ่มนี้มักจะได้รับผลดีจากภาวะสงคราม”นายสุโชติ กล่าว
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซีย และยูเครน ซึ่งเป็นเรื่องของสงครามเป็นอะไรที่ประเมินได้ลำบาก เพราะจริง ๆ ให้น้ำหนักเลวร้ายสุดไว้แค่ 10% ในการรุกยิงกัน ดังนั้นตอนนี้จึงแนะนำแค่ Wait & See รอดูสถานการณ์ต่อไปก่อน
สำหรับคนที่ถือหุ้นพื้นฐานดี และมีผลกำไรที่ดีก็ยังถือต่อไปได้ เพียงแต่อาจจะต้องมีเงินสำรองลงทุนอีกส่วนเพื่อใช้ในการซื้อถัวเฉลี่ย พร้อมให้กรอบการแกว่งบ่ายนี้มีแนวรับ 1,660-1,650 จุด แนวต้าน 1,670 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และยูเครน จนเกิดการยิงกันนั้น ทำให้ตลาดเกิดการ Panic และไม่รู้ว่าจะมีการตอบโต้อะไรกันอย่างไรต่อไปหรือเปล่า ดังนั้นจึงแนะนำสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้น้อยให้ลดพอร์ตลงทุน และชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน ส่วนคนที่รับความเสี่ยงได้ก็รับไป แต่มองว่าดัชนีฯมีโอกาสปรับตัวลงมาแถว 1,640-1,620 จุด
อย่างไรก็ดี หากอยากจะลงทุนก็ควรจะหาหุ้นพื้นฐานดี และความน่าสนใจลงทุน อย่างหุ้นที่ให้ปันผลสูงน่าสนใจอยู่ และหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ที่ได้รับอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น รวมถึงกลุ่ม Domestic play พวกการบริโภคภายในประเทศก็น่าสนใจ
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดเกิด Panic จากสถานการณ์ในยูเครน ที่รัสเซียเปิดฉากยิงยูเครนตะวันออก ทำให้มองว่าควรจะชะลอการลงทุนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์ว่าทางนาโต้ และประเทศมหาอำนาจจะมี Action อะไรออกมาหรือเปล่า
“ที่ผ่านมาพบว่าสงครามจะมาไวไปไว ถ้ามีคู่กรณีเดียว เพราะฉะนั้นคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 เดือนก็จะ Bottom แล้วสถานการณ์จะกลับมาที่เดิม ซึ่งมีเรื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.แล้ว มองใกล้ Bottom แล้ว ยิงกันแล้ว ชัดเจนแล้ว ซึ่งมองว่าใช้เวลาอย่างช้า 2 เดือนน่าจะกลับไปที่เดิม”
นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ตลาดหุ้นมีโอกาสเด้งขึ้นได้เล็กน้อยหลังจากที่ตลาดเกิด Panic ปรับตัวลงไปมาก แต่ตลาดฯยังมีปัจจัยเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ที่จะต้องติดตาม เพราะมีนัยยะสำคัญต่อนโยบายการเงิน ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อมีโอกาสที่จะสูงขึ้น พร้อมแนะนำให้ถือหุ้น 50% ของพอร์ตลงทุน ซึ่งยังมองหุ้นไทยปลอดภัยสุด เชื่อว่าได้รับผลกระทบไม่มากจากภาวะสงครามครั้งนี้