TOP เพิ่มทุน 275 ล้านหุ้น ยกล็อต GPSC 10.78% ขาย PTT

HoonSmart.com>>”บอร์ดไทยออยล์” ไฟเขียวแผนการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาว  เพิ่มทุนเสนอขายประชาชนทั่วไป  ลดสัดส่วนการถือหุ้น  “โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่” ขายปตท. มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน เพิ่มความพร้อมเพื่อต่อยอดธุรกิจหลังขยายเข้าสู่ธุรกิจปิโตรเคมีที่อินโดนีเซีย 

บริษัท ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า วันที่ 17 ก.พ.2565 คณะกรรมการบริษัทมีการประชุมนัดพิเศษ เห็นชอบการเพิ่มทุนจดทะเบียนและการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) รวมถึงการขายหุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่  (GPSC) บางส่วน ตามแผนการจัดหาเงินทุนสำหรับการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาวของบริษัทฯ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ชำระเงินกู้ยืมระยะสั้นที่ใช้สำหรับลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีที่อินโดนีเซียเมื่อไตรมาส 3 ปี 2564 รวมถึงสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน

วนิดา บุญภิรักษ์

นางวนิดา บุญภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการเงินและบัญชี บริษัท ไทยออยล์  เปิดเผยว่า คณะกรรมการเห็นชอบการเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 2,751.2 ล้านบาท  เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 23,151,478,730 บาท โดยการออกหุ้นใหม่จำนวนไม่เกิน 275,120,000 หุ้น พาร์หุ้นละ 10 บาท  เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 239,235,000 หุ้น ซึ่งรวมการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม  ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า  80% โดยจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้น นอกจากนี้บริษัทฯ อาจมีการพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) จำนวนไม่เกิน 35,885,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน  15% ของจำนวนหุ้น โดยยืมหุ้นจากบริษัท ปตท.

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังเห็นชอบการจำหน่ายหุ้น ของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด  ให้แก่บริษัท ปตท. (PTT) และหรือ บริษัท สยาม แมนเนจเม้นท์ โฮลดิ้ง   (SMH) ซึ่งมีปตท. ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วน  100% จำนวนทั้งสิ้น 304,098,630 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ  10.78 % รวมทั้งสิ้นประมาณ 22,351 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาก่อนหักเงินปันผลของ GPSC   และให้นำทั้ง 2 รายการเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

การเพิ่มทุนและการจำหน่ายหุ้น GPSC ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมให้แก่ ปตท. และธนาคารพาณิชย์ จากเงินกู้ยืมระยะสั้น (Bridging Loan) ที่มีการกู้ยืมเพื่อรองรับการเข้าลงทุนของบริษัทฯ ใน PT Chandra Asri Petrochemical Tbk (CAP) เมื่อไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ทั้งนี้ การเพิ่มทุนและการจำหน่ายหุ้น GPSC ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดหาเงินทุนสำหรับการปรับโครงสร้างทางการเงินระยะยาวของบริษัทฯ

วิรัตน์ เอื้อนฤมิต

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์   กล่าวว่า  บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตสู่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีสายโอเลฟินโดยได้เข้าร่วมลงทุนใน CAP ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตปิโตรเคมีชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ไทยออยล์สามารถก้าวเข้าสู่ธุรกิจโอเลฟินได้อย่างรวดเร็วและทำให้โครงสร้างธุรกิจมีความสมบูรณ์ ครอบคลุมธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี สร้างโอกาสการเติบโตในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสูงมาก

นอกจากนี้ การลงทุนนี้ยังเป็นการขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่างไทยออยล์ กับ CAP โดยไทยออยล์ได้เข้าทำสัญญาเพื่อส่งผลิตภัณฑ์จากโรงกลั่นเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบให้กับ CAP นอกจากนี้ ยังได้เข้าทำสัญญาเพื่อจำหน่ายพอลิเมอร์เรซิน และผลิตภัณฑ์ในรูปของเหลวอื่นๆ ของ CAP อีกด้วย

ก่อนหน้านี้ บอร์ดมีมติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2 บาท กำหนดขึ้นวัน XD วันที่ 3 มี.ค. 2565 และจ่ายเงินวันที่ 25 เม.ย.  รวมทั้งปีบริษัทจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2.60 บาท