‘บางกอก เดค-คอน’สยายปีกตลาด CLMV เซ็นรับงานใหญ่ ตกแต่งบ้าน-คอนโดหรูเมียนมา 3,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 3 ปี หนุนกำไรปีหน้าโตไม่ต่ำกว่า 20% ไม่รวมธุรกิจขายน้ำประปา มองโอกาสขยายไปลาวอีก 2 ปี ส่วนงานกัมพูชายังไปได้สวย
วันที่ 5 ก.ย.2561 นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เดค-คอน (BKD) ลงนามเอ็มโอยู กับนายชายยอด( Sai Ywet) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดมอนด์ โรส ไมน์นิ่ง กรรมการผู้จัดการและผู้บริหารโครงการลอยคำ เรสซิเดนเชียล คอมมูนิตี้ ในเมืองตองจี เมืองหลวงของรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ โดย BKD รับงานตกแต่งภายในและงานสถาปัตย์มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทในโครงการลอยคำฯ เป็นเวลา 3 ปี
นางนุชนารถ เปิดเผยว่า งานที่เมียนมาเป็นโครงการต่างประเทศขนาดใหญ่ที่สุดของ BKD ซึ่งบริษัทฯจะทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2562 ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี โดยมีการบริหารความเสี่ยง เช่นธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุน และลูกค้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ช่วยทำให้กำไรมีโอกาสเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ในปีหน้า ทั้งนี้ยังไม่รวมกำไรจากธุรกิจน้ำประปาในจ.ภูเก็ต ที่จะผลิตน้ำประปาขายประมาณ 25,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน
ขณะเดียวกันโครงสร้างรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบัน 5-10% จากการรับรู้รายได้การรับงานในประเทศกัมพูชาที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นบริษัทกำลังศึกษาและเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปรับงานใน สปป.ลาว ใน 2 ปีข้างหน้า
“ปีนี้เรามั่นใจว่ากำไรจากการดำเนินงานจะเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 63 ล้านบาท เนื่องจากหันมาเน้นรับงานที่มีมาร์จิ้นสูง และมีความชำนาญ ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 40% ซึ่งยังไม่รวมงานใหม่ ที่จะร่วมประมูลอีก 500 ล้านบาท ส่วนในปีหน้ามั่นใจว่ากำไรจะเติบโตได้อีกมาก เพราะเรามีระบบ Prefabrication ในการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นการผลิตที่โรงงานเพื่อนำไปติดตั้งหน้างาน สามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ” นางนุชนารถกล่าว
ทางด้านนายชายยอด กล่าวว่า มีผู้รับเหมาเข้าร่วมประมูลงานหลายราย และ BKD ไม่ได้เสนอราคาต่ำที่สุด แต่เหตุผลในการเลือกบริษัทบางกอก เดค-คอนมาตกแต่งภายในและงานสถาปัตย์บ้านของโครงการลอยคำ จากการพิจารณาถึงคุณภาพและการทำงานเสร็จเรียบร้อยตามสัญญา โดยมีระบบจัดการและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
สำหรับโครงการลอยคำฯเป็นโครงการบ้านหรู และมีคอนโดมิเนียม ที่ตั้งอยู่บนเขาเพียงแห่งเดียวที่ได้รับใบอนุญาตจากทางการเมียนมา เป็นเมืองที่มีอากาศเย็นตลอดปี โครงการมีทั้งหมด 140 ยูนิต มูลค่าโครงการมากกว่า 8,000 ล้านบาท มีทั้งหมด 5 โซน เฟสแรกทำบ้านขนาดเล็กในต้นปี 2562 ราคาขายประมาณ 20 ล้านบาท/หลัง จำนวน 18 หลัง ขณะนี้มีความต้องการซื้อเข้ามาแล้วจำนวน 50 ราย จึงต้องใช้วิธีการจับสลากเพื่อเลือกผู้ชนะและเลือกแปลงในการสร้างบ้าน กลุ่มลูกค้าเป็นนักธุรกิจและคหบดี ส่วนเฟสต่อไป คาดว่าจะเริ่มในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณาถึงความต้องการของตลาดและโอกาสทางการเติบโตประกอบด้วย