บล.โกลเบล็ก เชียร์ซื้อ SSP ปรับเป้ากำไรปีนี้เพิ่ม 20 %

บล.โกลเบล็ก ปรับเป้ากำไร SSP ปีนี้เพิ่ม 20 % คาดโครงการในต่างประเทศเสร็จก่อนกำหนด แถมบริษัทได้โครงการเพิ่มอีก เชียร์ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 11.20 บาท

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก แนะนำ “ซื้อ ” หุ้นบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ให้ราคาเหมาะสม 11.20 บาท เนื่องจาก ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 เพิ่มขึ้น 20% จากประมาณการณ์เดิม หลังจากที่รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 153 ล้านบาท เติบโต 43% จากไตรมาส 1/61 และ 38% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับรายได้จากการขายไฟที่เพิ่มขึ้นถึง 30%

สำหรับการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61 เพิ่มขึ้น 20% อยู่ที่ 556 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกปี 61 มีสัดส่วนเป็น 47% ของประมาณการกำไรทั้งปีแล้ว และปรับกำไรปี 62 เพิ่มขึ้นจากเดิม 29% สู่ 691 ล้านบาท คาดการณ์รายได้รวมปี 61 อยู่ที่ 1,193 ล้านบาท เติบโต 36% จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยมาจากโครงการ Zouen 8 เมกะวัตต์ ที่ COD ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา

คาดว่าโครงการอื่น ๆ จะสามารถทำได้ตามกำหนดการได้แก่ โครงการโซลาร์รูฟท็อป DoHome โครงการ โซลาร์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก จ.ราชบุรี และคาดโครงการ Khunshight Kundi ขนาด 16.4 เมกะวัตต์ ประเทศมองโกเลียน่าจะสามารถ COD ได้ตั้งแต่ ไตรมาส 4/61 เร็วกว่ากำหนดการเดิมที่คาดไว้ในไตรมาส 1/62

ในขณะที่คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 220 ล้านบาทเหลือ 160 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และไม่มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างหลังจากเปลี่ยนนโยบายบัญชี คาดอัตรากำไรสุทธิปี 61 ราว 47% จากที่ทำได้ 38% ในปี 60

ล่าสุด เข้าลงนามซื้อหุ้นของบริษัท TTQN ซึ่งดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 49.61 เมกะวัตต์ในเวียดนาม โดยคาดโครงการจะเริ่ม COD ได้ภายในไตรมาส 2/62 โดยรัฐบาลเวียดนามรับซื้อค่าไฟแบบ FiT (Feed-in-Tariff) 0.0935 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยมูลค่าส่วนเพิ่มของโครงการนี้ยังไม่รวมในมูลค่าเหมาะสมที่ปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าว (รวมโครงการที่มองโกเลียแต่ยังไม่รวมโครงการที่เวียดนาม)

วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการ ‘โซเอ็น’ (Solar Farm) ขนาด 8 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561 ซึ่งดำเนินการได้เร็วกว่ากำหนด จากเดิมที่จะ COD ในช่วงไตรมาส 4/2561 ซึ่งการดำเนินการพัฒนาโครงการทำได้รวดเร็วกว่าแผนงานโดยงบลงทุนควบคุมได้เป็นไปตามงบประมาณที่กำหนด โดยเมื่อนับรวมกำลังการผลิตจำนวน 3 เมกะวัตต์ ของโครงการ Do Home ที่เริ่ม COD ในช่วงต้นไตรมาสนี้ จะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตติดตั้งรวมอยู่ที่ 85 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการโซลาร์ฟาร์มที่เตรียม COD ภายในปีนี้และต้นปีหน้าอีก 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้า อพศ. 5 เมกะวัตต์ และโครงการในมองโกเลีย 16.4 เมกะวัตต์ ซึ่งเมื่อทั้งสองโครงการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วจะทำให้กำลังการผลิตติดตั้งที่รับรู้รายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 107 เมกะวัตต์