HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 129 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นเร่งดอกเบี้ยควบคุมเงินเฟ้อ “ประธานเฟด” ชี้เฟดมีพื้นที่ทางนโยบายมากพอที่จะขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกก่อนเฟดแถลง ด้านราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2% สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 26 มกราคม 2565 ปิดที่ 34,168.09 จุด ลดลง 129.64 จุด หรือ -0.38% หลังจากธนาคารกลาง (เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นเร่งดอกเบี้ยเพื่อควบคุมกับเงินเฟ้อ และนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด บ่งชี้ว่าเฟดมีพื้นที่ทางนโยบายมากพอที่จะขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,349.93 จุด ลดลง 6.52 จุด, -0.15%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,542.12 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด, +0.02%
ตลาดอ่อนตัวจากระดับสูงสุดของวันและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นหลังจากนายพาวเวลล์แถลงข่าวว่า ยังมีพื้นที่นโยบายที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยไม่ส่งผลกระทบตลาดแรงงาน และระดับราคายังคงเพิ่มสูงขึ้น เพราะเงินเฟ้อมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาที่ 1.8% หลังจากนายพาวเวลล์แถลง เพราะตลาดมองว่า เฟดจะดำเนินการเชิงรุกในการปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวด
เอ็ดเวิร์ด โมยาจาก Oanda กล่าวว่า หลังจากประธานเฟดแถลง ก็ชัดเจนว่าความเสี่ยงที่อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นก็สูงขึ้น ตลาดก็ลดลง
เฟดส่งสัญญานในแถลงการณ์หลังการประชุมประจำเดือนนี้ ที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เร็วสุดในเดือนมีนาคม
“จากเงินเฟ้อที่สูงกว่า 2% และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง คณะกรรมการคาดว่าจะเป็นการเหมาะสมที่จะขึ้นช่วงเป้าหมายดอกเบี้ย fed fund rate ในเร็วๆนี้” แถลงการณ์ระบุ
เดือนกุมภาพันธ์เฟดไม่มีกำหนดประชุม แถลงการณ์ของเฟดเป็นไปตามที่ตลาดคาดและยังคงปรับตัวขึ้น แต่เริ่มอ่อนตัวลงเมื่อนายพาวเวลล์แถลง การซื้อขายจึงผันผวน
เฟดยังได้บ่งชี้ในแถลงการณ์อีกฉบับว่า จะเริ่มลดขนาดงบดุลหลังจากขึ้นดอกเบี้ย โดยมีแผนที่จะลดการซื้อสินทรัพย์ต่อเนื่อง และจะเสร็จสิ้นสุดกระบวนการในช่วงต้นเดือนมีนาคม ดังนั้นจึงเป็นการสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ช่วยสนับสนุนตลาดการเงินตลอดช่วงการระบาดใหญ่
นักลงทุนยังขานรับการรายงานผลการดำเนินงานของไมโครซอฟต์และบริษัทจดทะเบียนอื่น
หุ้นไมโครซอฟต์เพิ่มขึ้น 2.9% จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดและคาดการณ์แนวโน้มรายได้รายไตรมาสที่สดใส
หุ้นโบอิ้ง ลดลง 4.82% จากขาดทุนมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ลดลง 1.84% หลังมีรายงานว่า เฟซบุ๊กจะเลิกพัฒนา ลิบรา (Libra) สกุลเงินคริปโทฯ ที่ได้เปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อน
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 11.9% มาที่ระดับ 811,000 ยูนิต สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม และสูงกว่า 760,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้นกว่า 4% ขณะที่นักลงรอการแถลงผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังตลาดปิด แต่ยังวิตกต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.31 จุด เพิ่มขึ้น 7.72 จุด, +1.68%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,469.78 จุด เพิ่มขึ้น 98.32 จุด, +1.33%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,981.96 จุด เพิ่มขึ้น 144.00 จุด, +2.11%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,459.39 จุด เพิ่มขึ้น 335.52 จุด, +2.22%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 87.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 89.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในระหว่างวัน น้ำมันดิบ BRENT เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ ทะลุ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี จากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน