HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 99 จุด หลังจากทรุดตัวลงไปกว่า 1,000 จุดระหว่างวัน แรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นักลงทุนยังเกาะติดประชุมเฟด การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ราคาน้ำมันดิบลดลง ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 24 มกราคม 2565 ปิดที่ 34,364.50 จุด เพิ่มขึ้น 99.13 จุด หรือ 0.29% หลังจากที่ทรุดตัวลงไปกว่า 1,000 จุดระหว่างวัน นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ถูกเทขายไปในวันก่อน ขณะที่นักลงทุนกาะติดการประชุมของธนาคารกลาง(เฟด) การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,410.13 จุด เพิ่มขึ้น 12.19 จุด, +0.28%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,855.13 จุด เพิ่มขึ้น 86.21 จุด, + 0.63%
ระหว่างชั่วโมงซื้อขายดัชนี Nasdaq ลดลงไปถึง 4.9% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2008 ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไป 1,115 จุด และดัชนี S&P 500 เข้าสู่เขตปรับฐานเพราะลดลงกว่า 10% จากวันที่ปิดสูงสูด 3 มกราคม
แรงเทขายในตลาดมาจากการไหลลงของราคาบิตคอยน์มาที่ 33,000 ดอลลาร์ ร่วงลงกว่า 50% จากระดับสูงสุดเดือนพฤศจิกายน ส่วน ethereum ลดลงกว่า 10% มาที่เหนือ 2,000 ดอลลาร์เล็กน้อย
ในช่วงแรกนักลงทุนจึงเทขายกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่จะกลับเข้ามาซื้อคืน ขณะที่แรงเทขายอาจจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เมื่อประเมินจากดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนท เพิ่มขึ้นแตะระดับ 38.47 สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งเมื่อดัชนีแตะระดับสูงสุดแล้วตลาดมีแนวโน้มที่จะกลับมาบวกแม้จะชั่วคราว
นักลงทุุนจับตาการประชุมของเฟด ที่เริ่มขึ้นในวันอังคารและเสร็จสิ้นในวันพุธ เพื่อหาสัญญาณว่า เฟดจะปรับดอกเบี้ยขึ้นเท่าไรในปีนี้และจะเริ่มเมื่อไร
นักวิเคราะห์จาก Allspring Global Investments กล่าวกับ “Squawk on the Street” ของ CNBC ว่า “สิ่งที่นักลงทุนวิตกมากคือ การตอบสนองของเฟดและรักษาสมดุลนี้ไว้ และในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้จะเกิดความปั่นป่วนมาก”
ในการแถลงข่าวหลังการประชุม ประธานเจอโรม พาวเวลล์ ยังสามารถส่งสัญญาณว่าเฟดจะเริ่มคลี่คลายงบดุลจำนวนมหาศาลเมื่อใด
การประชุมเฟดครั้งนี้พร้อมกับแถลงการณ์นโยบายการเงินฉบับใหม่และงานแถลงข่าวจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในวันพุธ คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในทันที อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเฟดต้องการที่จะคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษหลังการฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ การประชุมครั้งนี้น่าจะเป็นเวทีให้เฟดส่งสัญญานว่า กำลังใกล้จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยและพิจารณาต่อเนื่องเกี่ยวกับการลดขนาดงบดุลที่มีมูลค่าเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์
ไอเอชเอส มาร์กิตรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนมกราคมลดลงมาที่ระดับ 50.8 ต่ำสุดในรอบ 18 เดือน จาก 57.0 ในเดือนธันวาคม
ตลาดยังรอการรายงานผลประกอบการของบริษัทใหญ่ในสัปดาห์นี้ ทั้งไมโครซอฟต์ แอปเปิล และโบอิ้ง พร้อมกับการคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานจากฝ่ายบริหาร
นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศที่ตึงเครียด หลังรัสเซียเพิ่มกำลังทหารประชิดชายแดนยูเครน
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ที่ลดลง 5.2% ขณะที่นักลงรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และสถานการณ์รัสเซียและยูเครนที่ตึงเครียดมากขึ้น
ไอเอชเอส มาร์กิตรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนมกราคมของยูโรโซนลดลงมาที่ระดับ 52.4 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีก่อนจาก 53.3 ในเดือนธันวาคม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 456.36 จุด ลดลง 18.08 จุด, -3.81%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,297.15 จุด ลดลง 196.98 จุด, -2.63%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,787.79 จุด ลดลง 280.80 จุด, -3.97%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,011.13 จุด ลดลง 592.75 จุด, -3.80%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 86.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 88.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล