HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 339 จุด แรงขายหุ้นเทคโนโลยีต่อเนื่องฉุดดัชนี Nasdaq ปรับฐาน กังวลบอนด์ยีลด์สูงขึ้น รายงานผลดำเนินงานบริษัทขนาดใหญ่ออกมามีทั้งดีกว่าคาดและลดลง ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวก ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 19 มกราคม 2565 ปิดที่ 35,028.65 จุด ลดลง 339.82 จุด หรือ 0.96% หลังจากแรงซื้อสลับแรงขายก่อนที่จะปิดในระดับต่ำสุดของวัน ขณะที่นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นและรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่มีทั้งดีกว่าคาดและลดลง
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,532.76 จุด ลดลง 44.35 จุด หรือ -0.97%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,340.26 จุด ลดลง 166.64 จุด หรือ -1.15%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปียังปรับขึ้นต่อเนื่อง จากนักลงทุนเตรียมรับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลาง(เฟด)จะปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น โดยปิดที่ระดับ 1.9% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังสูงขึ้นอีก โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า WTI เพิ่มขึ้นเหนือ 86 ดอลลาร์ต่อยาร์เรล์ สูงสุดนับตั้บแต่ปี 2014
ดัชนี Nasdaq เข้าสู่การปรับฐาน (Correction) ร่วงลง 10% จากระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน
หุ้นแอปเปิล ลดลง 2.10% หุ้นเทสลา ลดลง 3.38% หุ้น NVIDIA ลดลง 2.23% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.65% หุ้นแอมะซอน ลดลง 1.65% หุ้นอินเทลลดลง 2.08%
อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อ ดัชนี Nasdaq เนื่องจากรายได้ในอนาคตของหุ้นเทคโนโลยีดูน่าดึงดูดน้อยลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น และบริษัทเทคโนโลยียังพึ่งพาอัตราดอกเบี้ยต่ำในการกู้ยืมเพื่อลงทุนในนวัตกรรม
ด้านดัชนี S&P 500 อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพียง 5%
แจ๊ค แอบลิน ผู้ก่อตั้งและ CIO จาก Cresset Capital กล่าวว่า นักลงทุนวิตกว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและสภาวะการเงินที่ตึงตัวจะกดดันมูลค่าหุ้น
หุ้นแบงก์ออฟอเมริกาเพิ่มขึ้น0.4% หุ้นมอร์แกนแสตนเลย์เพิ่มขึ้น 1.8% หุ้น พร็อกเตอร์แอนด์แกมเบอลเพิ่มขึ้นราว 3.4% จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด แต่ตลาดยังร่วงลง
กระทรวงพาณิชย์รายงาน ข้อมูลการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 1.4%มาที่ระดับ 1.702 ล้านยูนิต จาก 1.678 ล้านยูนิตในเดือนพฤศจิกายนและสูงกว่า 1.650 ล้านยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้นกลุ่มรับเหมาสร้างบ้านลดลงหลัง KeyBanc ปรับลดคำแนะนำการลงทุนเพราะต้นทุนการกู้ยืมจะสูงจากการปขึ้นดอกเบี้ย หุ้น KB Home ลดลง 3.9% หุ้น Lennar ลดลงราว 4.4%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเหมืองแร่ที่เพิ่มขึ้น 2.7% ดูเหมือนว่านักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และเงินเฟ้ออังกฤษที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 30 ปี ขณะที่หันไปสนใจผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
เงินเฟ้ออังกฤษเดือนธันวาคม 5.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 1992 และเพิ่มขึ้นจาก 5.1% จากเดือนพฤศจิกายน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 480.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.11 จุด, +0.23%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,589.66 จุด เพิ่มขึ้น 26.11 จุด, +0.35%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 7,172.98 จุด เพิ่มขึ้น 39.15 จุด, +0.55%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,809.72 จุด เพิ่มขึ้น 37.16 จุด, +0.24%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 86.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 88.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล