HoonSmart.com>> กลุ่มโรงกลั่นขยับขึ้นยกแผง เทรดคึกคัก นำโดย ESSO-TOP โบรกฯเล็งหนุนกำไรในไตรมาส 4/64 แข็งแกร่ง ขานรับค่าการกลั่นทรงตัวสูง พร้อมเชียร์ SPRC, TOP
หุ้นกลุ่มโรงกลั่นขยับขึ้นยกแผง มีแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบโลก ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 7-8 ปี ขณะที่ ล่าสุด (18 ม.ค.) ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดที่ 5.76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
หุ้น ESSO ปิดที่ 7.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 448.42 ล้านบาท
หุ้น TOP ปิด 52.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,448.86 ล้านบาท
หุ้น SPRC ปิด 11 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 399.73 ล้านบาท
หุ้น BCP ปิด 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 243.63 ล้านบาท
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดความต้องการใช้น้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นเด่น ตามเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัว หนุนค่าการกลั่น และ spread ยังคงเดินหน้า ในขณะที่ทำลังการผลิตทั่วโลกยังออกมาค่อนข้างจำกัด จึงแนะนำหุ้นบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) คาดจะช่วยหนุนกำไร และหนุนการกลับมาจ่ายปันผล โดยประเมินอัตราปันผลปีนี้สูงราว 4.5% เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 11.2 บาท
บล.คันทรี่ กรุ๊ป แนะ”ซื้อ”หุ้น บริษัท ไทยออยล์ (TOP) ราคาเป้าหมาย 67 บาท คาดกำไรปกติจะโตต่อเนื่องในปี 65 หลังฟื้นตัวขึ้นมาจากผลขาดทุนในปี 63 และมีผลประกอบการแข็งแกร่งในปี 64 หนุนจากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น, ผลประกอบการธุรกิจปิโตรเคมีที่มั่นคง
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า ด้วยกำลังเข้าสู่ฤดูกาลการประกาศงบการเงินประจำไตรมาส และประจำปี ทำให้คาดเกิดแรงเก็งกำไรในหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 464 เติบโตสูง รวมถึงค่าการกลั่นยังทรงตัวระดับสูง ทำให้ยังคงชอบหุ้นเด่นได้แก่ หุ้นโรงกลั่น คือ SPRC และ TOP
ด้านบล.ทรีนีตี้ ประเมินแนวโน้มกลุ่มโรงกลั่นในไตรมาส 4/64 จะเพิ่มขึ้นได้เมื่อเทียบไตรมาส 3/64 ตาม GRM ที่ปรับขึ้น โดยทิศทางของ GRM ในไตรมาส 4 ปรับตัวดีขึ้นราว 3-4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากไตรมาส 3 อยู่ที่ราว 2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในกลุ่มนี้มอง Pure โรงกลั่นค่อนข้างได้เปรียบ เช่น SPRC ราคาเป้าหมาย BB consensus อยู่ที่ 11.50 บาท และ TOP ราคาเป้าหมายของบล.ทรีนีตี้อยู่ที่ 72 บาท
ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีคาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/64 คาดว่าจะปรับขึ้นเมื่อเทียบไตรมาส 3/64 ได้เล็กน้อย ตามแนวโน้มของส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ปรับขึ้น ทั้งกลุ่ม Aromatic เช่น PET Spread ที่ปรับขึ้นกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน (เติบโต 50% จากไตรมาส 3/64) และกลุ่ม Olefin ที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 40-50 เหรียญสหรัฐ/ตัน (เติบโต 10% จากไตรมาส 3/64) ยังคงเลือก IVL ราคาเป้าหมาย 60 บาท เป็น Top pick ของกลุ่มปิโตรเคมีนี้
กลุ่มสถานีบริการน้ำมัน คาดว่าจะมีทิศทางของกำไรไตรมาส 4/64 ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 3/64 จากปริมาณการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสามารถชดเชยค่าการตลาดที่ถูกกดดันได้ โดยจากข้อมูล Google Mobility พบว่าปริมาณการเดินทางในช่วงไตรมาส 4 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ +10% จากช่วง Pre-Covid เพิ่มขึ้นจากระดับ -10% ในช่วงไตรมาส 3
สำหรับ Top pick ในกลุ่มนี้ เลือก OR ที่น่าจะโตทั้งเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนและเติบโตไตรมาส 3/64 ราคาเป้าหมาย 32 บาท รวมถึง BCP ที่ได้ประโยชน์จากจากทั้งธุรกิจสถานีน้ำมันและ GRM ที่ดีขึ้น ราคาเป้าหมาย 33 บาท ส่วน PTG อาจมีความเสี่ยงในตัวธุรกิจ Palm complex ที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันปาล์มที่ร่วงลงในช่วงไตรมาส 4 จึงอาจรอให้งบประกาศออกมาก่อนจึงค่อย Buy on Fact