HoonSmart.com>> หุ้น TKC ผู้ให้บริการดิจิทัลโซลูชั่น วางระบบโครงข่ายสื่อสารครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีที โชว์กำไร 9 เดือนแรก 191 ล้านบาท เติบโต 64.59% กวาดรายได้เพิ่มขึ้น 20% อยู่ที่ 1,832 ล้านบาท ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้นเข้าเทรดใน SET ดีเดย์ 17 ม.ค.65 มูลค่าหลักทรัพย์ 5,400 ล้านบาท ราคา IPO หุ้นละ 18 บาท
บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 191.14 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.92 บาท เพิ่มขึ้น 64.59% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 116.08 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.58 บาท โดยมีรายได้รวม 1,832.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 305.94 ล้านบาท หรือ 20.04% จากงวดปีก่อน สาเหตุหลักมาจากบริษัทฯ ส่งมอบและทยอยรับรู้รายได้ของโครงการขนาดใหญ่ที่เริ่มดำเนินการในช่วงปลายปี 2563 เช่น โครงการ CAT Fillter และโครงการ DWDM Transmission CAT Submarine
รวมถึงโครงการที่เริ่มดำเนินการในช่วง 9 เดือนปี 2564 เช่น โครงการ Backhaul and Border โครงการ CAT C5 และโครงการ Storage for GDCC เป็นต้น และการให้บริการอินเทอร์เน็ตโครงการ USO Phase I และ Phase II การให้บริการทดสอบสัญญาณและบริการติดตั้งอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดีรายได้จากการขายของบริษัทลดลงอย่างมากจากจำหน่ายสินค้าลดลง ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีการจำหน่ายซอฟต์แวร์โครงการของ CAT
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TKC” ในวันที่ 17 ม.ค.2565
TKC เป็นผู้ให้บริการรับเหมาโครงการแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey project) ในงานวางระบบโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม สื่อสารข้อมูล และความปลอดภัยสาธารณะ รวมถึงงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ยาวนานกว่า 18 ปี โดยมีทีมวิศวกรที่มีความรู้และประสบการณ์ผ่านการอบรมระดับสากล และกลุ่มพันธมิตรบริษัทชั้นนำระดับโลก เช่น Huawei, Nokia และ Cisco จึงได้รับงานโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการจัดหา ออกแบบและติดตั้งวิทยุสื่อสารดิจิทัล (Digital Trunk Radio) เฟส 1 และ 2, ให้บริการเชื่อมต่อ Internet ความเร็วสูงสำหรับโครงการ USO เฟส 1 และ 2 และงานติดตั้งวรจรกรองสัญญาณ (CAT Filter) โดย ณ 30 กันยายน 2564 มีงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) ประมาณ 2,346 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า และมีโอกาสเติบโตตามโครงการภาครัฐ และการขยายการลงทุนของภาคเอกชนในอนาคต
TKC มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 222 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 78 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 58.50 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 11.70 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และ/ หรือพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยไม่เกิน 7.80 ล้านหุ้น ในวันที่ 7, 10–11 ม.ค.2565 ราคาหุ้นละ 18 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,404 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 5,400 ล้านบาท และมีบริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) เปิดเผยว่า การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้บริษัทมีฐานทุนเพิ่มขึ้น เพิ่มศักยภาพในการรับงานโครงการขนาดใหญ่ ที่มุ่งเน้นการให้บริการเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคม ระบบโครงข่ายสื่อสัญญาณ ระบบศูนย์ข้อมูลหลัก ศูนย์ข้อมูลสำรอง ระบบคลาวด์ Smart Solutions ระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัลและระบบตรวจสอบเฝ้าระวังและการบริหารความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Security) รวมถึงงานบริการเพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดการเป็นผู้นำในการให้บริการงานวิศวกรรมในสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
TKC มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มนายสยาม เตียวตรานนท์ ถือหุ้น 46.07% 2) บริษัท สกาย ไอซีทีจำกัด (มหาชน) (SKY) ถือหุ้น 25.16% 3) นางปิ่นปรียากร ชนม์พัทธ์เมธา และนางศิริรัตน์ สุขสมาน ถือหุ้นท่านละ 1.39% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จะพิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earning Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาที่เสนอขายคิดเป็นอัตราส่วน P/E เท่ากับ 17.54 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ที่ 1.03 บาท/หุ้น ซึ่งคำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ (Fully Diluted)
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
อ่านข่าว
TKC กระแสแรงปิดจอง IPO เกลี้ยงสะท้อนเชื่อมั่น ก้าวสู่ผู้นำดิจิทัลโซลูชั่น