กรุงศรีอยุธยา ประเมินค่าเงินบาทสัปดาห์นี้กรอบ 32.50-33.00 บาทต่อดอลลาร์ จับตาเงินไหลเข้าหนุนบาทแข็ง
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-33.00 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 32.73 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือน แต่แรงส่งแผ่วลงหลังผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าติดตามการไหลเข้าของเงินทุนอย่างใกล้ชิดและมีเงินทุนไหลเข้ามาในตราสารหนี้ระยะสั้นของไทยสูงกว่าภูมิภาค ทั้งนี้ สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 6.2 พันล้านบาทแต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 2.56 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในเดือนสิงหาคม เงินบาทแข็งค่า 1.6% ซึ่งเป็นอัตราการแข็งค่ามากที่สุดในกลุ่มสกุลเงินเอเชียเมื่อเทียบเป็นรายเดือน
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลตลาดแรงงานและการเติบโตของค่าจ้างในสหรัฐฯ ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้า สถานการณ์ค่าเงินตลาดเกิดใหม่บางแห่งที่ประสบภาวะวิกฤติ และการคลังอิตาลียังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม ในสัปดาห์ที่แล้ว ดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่ตลาดลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงหลังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดาสิ้นสุดลงโดยปราศจากข้อตกลง แม้ก่อนหน้านี้จะมีสัญญาณเชิงบวกจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกก็ตาม
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ตลาดจะจับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม ส่วนผู้ว่าการธปท.กล่าวว่าเงินบาทจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำหรับการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายโดยเงินบาทที่แข็งค่าจะช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อผ่านราคาสินค้านำเข้าที่ถูกลง อนึ่ง ทางการยืนยันว่าหากถึงเวลาที่ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย จะเป็นการปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจังหวะเวลาจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจเป็นหลัก และหากจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยบ้างยังคงถือว่านโยบายการเงินของไทยอยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย เพราะเป็นการปรับขึ้นจากอัตราที่ต่ำมาก
อย่างไรก็ดี ธปท.ต้องการให้ภาคธุรกิจวางแผนในระยะยาวเนื่องจากทิศทางของดอกเบี้ยโลกกำลังเป็นขาขึ้น สำหรับความเห็นเกี่ยวกับกระแสเงินร้อน ธปท.กล่าวเตือนว่าพร้อมเข้าดูแลเงินบาท หากเคลื่อนไหวเร็วและผันผวนสูงแต่ยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการเพื่อความได้เปรียบทางการค้า และการที่ไทยมีฐานะต่างประเทศที่แข็งแกร่งกว่าตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ส่งผลให้มีเงินเข้ามามากกว่าประเทศอื่น เราประเมินท่าทีล่าสุดประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงสดใสต่อเนื่องบ่งชี้ว่าการปรับฐานของดอลลาร์อาจสิ้นสุดลง แต่ขาขึ้นของค่าเงินดอลลาร์จะยังคงถูกจำกัดเนื่องจากตลาดได้รับรู้แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของปีไปมากแล้ว