บริษัทไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป ลั่น 3 ธุรกิจหนุนขยายตัวระยะยาว ราคาเข้าสู่ช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะไก่ ปีนี้เพิ่มเป้าส่งออกอีก 1 หมื่นตันเป็น 6 หมื่นตัน ตลาดยุโรป และญี่ปุ่นปิดออเดอร์ล่วงหน้าตามเป้าหมาย สุกร เร่งขยายการเลี้ยงเพิ่มยอดขาย อาหารสัตว์โรงงานใหม่เริ่มสร้างรายได้ต้นปีหน้า
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ โดยธุรกิจไก่ บริษัทฯเร่งปรับพอร์ตการผลิตและการขาย เข้าสู่ตลาดส่งออกที่มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น และปรับเป้าหมายส่งออกรวมเป็น 60,000 ตัน ต่อปี จากเดิม 50,000 ตันต่อปี ทั้งตลาด ยุโรป และญี่ปุ่น ยังเติบโตต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทฯได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปประเทศจีน ซึ่งมีความต้องการสินค้าประเภท ขาไก่ และ ปีก เพิ่มขึ้นมาก ถึงสิ้นปี น่าจะทำได้เพิ่มอีกประมาณ 7,000 ตัน ในราคาสูงกว่าขายในประเทศ พร้อมเร่งเพิ่มมูลค่า โดยเฉพาะสินค้า by-products เป็นสินค้าปรุงสุก ส่งออกและอุตสาหกรรม
ขณะนี้บริษัทฯ ได้เริ่มผลิตไก่ปรุงสุก เพื่อส่งออกจากโรงงานใหม่ โดยเริ่มทำงานกับบริษัทพันธมิตรธุรกิจ ผลิตให้กับลูกค้ารายใหญ่จากญี่ปุ่นเป็นอันดับแรก เป็นเครือข่ายร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ มีออเดอร์ กลุ่มแรก เป้าหมาย 1,500 ตัน มูลค่าประมาณ 290 ล้านบาท ในราคาเฉลี่ยสูงกว่าราคาส่งออกไก่ดิบแช่แข็ง และจะเป็นคำสั่งซื้อระยะยาว ทำให้ธุรกิจเติบโตยั่งยืนและเพิ่มมูลค่าสินค้าไก่เฉลี่ยให้สูงขึ้น โดยในปีหน้าธุรกิจส่วนนี้จะเติบโตขึ้นมาก จากโรงงานไก่ปรุงสุกที่มีกำลังการผลิตประมาณ 30,000 ตันต่อปี หรือประมาณ 20% ของรายได้รวมจากสินค้าไก่
ส่วนธุรกิจสุกร ราคาในประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากระดับต่ำสุดในไตรมาส 1-2 ซึ่งบริษัทยังได้รับผลกระทบบางส่วน ปัจจุบันราคาสุกรเป็นอยู่ที่ประมาณ 62-64 บาทต่อกิโล และราคาสุกรชำแหละเฉลี่ยที่ประมาณ 77-79 บาทต่อกิโล สามารถสร้างรายได้สูงขึ้นมาก จึงเร่งขยายแผนการเลี้ยงและขายจากครึ่งปี เดือนละ 70,000 ตัว เพิ่มอีก 14% เป็น 80,000 ตัว ในไตรมาส 4 เพื่อตอบรับดีมานด์และราคาตลาดในครึ่งปีหลังและต้นปีหน้า โดยธุรกิจสุกรสร้างรายได้รวมประมาณ 6,000 ล้านบาทในปีนี้
ส่วนตลาดสุกรในเวียดนาม ราคาปรับตัวสูงขึ้นสูงกว่าในประเทศไทย ปัจจุบันสูงกว่า 70 บาทต่อกิโลกรัม โดยบริษัทฯ ส่งสุกรเข้าตลาดเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 7,000 ตัวต่อเดือน เป็น 8,000 ตัว ในครึ่งปีหลัง
ธุรกิจอาหารสัตว์ ในปีนี้ยอดขายภายในเครือ ประมาณ 12,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายการขายนอกเครือไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท รวมทั้งปีเติบโตกว่า 35% และทำกำไรขั้นต้นได้ต่อเนื่อง โดยบริษัทฯกำลังก่อสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์เพิ่มกำลังการผลิตอีก 75,000 ตันต่อเดือน คาดยอดขายเพิ่มตั้งแต่ไตรมาส1/2562 อีก 25%
“บริษัทยังม่ันใจว่า 3 ธุรกิจยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาว แต่ยังต้องบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ราคาตลาดของไก่และสุกร ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าและในประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ รวมถึงป้องกันโรคระบาดของไก่และสุกร อย่างระมัดระวังขั้นสูงสุด”นายเชิดศักดิ์กล่าว