HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบกว่า 1% ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 433 จุด กังวลโอมิครอนกระทบเศรษฐกิจโลก หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กระจายทั่วโลกและเริ่มเข้าสู่เทศกาลวันหยุดปลายปี ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลงแรง ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 3.7%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ปิดที่ 34,932.16 จุด ลดลง 433.28 จุด หรือ 1.23% จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โอไมครอนที่แพร่กระจายไปทั่วโลก หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ขณะที่เริ่มเข้าสู่เทศกาลวันหยุดปลายปี
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,568.02 จุด ลดลง 52.62 จุด, -1.14%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,980.94 จุด ลดลง 188.74 จุด, -1.24%
ในสหรัฐพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนถึง 43 รัฐจาก 50 รัฐ และใน 90 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายใน 1.5-3 วัน
หุ้นโบอิ้ง หุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรสร่วงแรงและถ่วงดัชนี DJIA ให้ลดลง
หุ้นโบอิ้งลดลง 2.2% หุ้นแคทเธอพิลลาร์ลดลง 2.9% หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริกลดลง 1.5%
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเศรษฐกิจต่างลดลง โดยหุ้นลาสเวกัสลดลง 3.6% หุ้นอลาสกา แอร์ลดลง 1.4% หุ้นเซ้าท์เวสต์แอร์ไลน์ลดลง 0.7%
หุ้นพลังงานลดลงเช่นกัน โดยหุ้นเดวอน เอ็นเนอร์จี้ลดลง 2.4% หุ้นเอ็กซอนโมบิลลดลง1.5% จากราคาน้ำมันดิบลดลง หลังจากมีการใช้มาตรการเข้มงวดในยุโรป โดยเนเธอร์แลนด์ประกาศล็อกดาวน์ธุรกิจที่ไม่สำคัญ ร้านอาหาร บาร์ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 14 มกราคม ปีหน้า ส่วนประเทศประกาศเคอร์ฟิว และจำกัดการเดินทาง เนื่องจากการแพร่กระจายที่รวดเร็วของไวรัสโอไมครอน
กลุ่มบริการทางการเงินก็ลดลง หุ้นโกลด์แมน แซคส์ลดลง 2.6% หุ้นเวลลส์ฟาร์โกลดลง 2.3% หุ้นเจพีมอร์แกนลดลง 1.8% หุ้นแบงก์ออฟอเมริกาลดลง1.6%
จอม พอลสัน จาก Leuthold Group ระบุว่า ตลาดร่วงลงจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอนที่เพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีการล็อกดาวน์รอบใหม่และจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
วุฒิสมาชิกโจ แมนชิน สายอนุรักษ์จากพรรคเดโมแครตออกมาให้ความเห็นว่าจะไม่สนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือร่างกฎหมาย Build Back Better วงเงิน 1.75 ล้านของประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งส่งผลให้โกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาสแรกปี 2022 ลงจาก 3% เป็น 2% และลดคาดการณ์ GDP ไตรมาสสองและสามลงด้วย จาก3.5% และ 3% เป็น 3% และ 2.75% ตามลำดับ เพราะมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ยากที่จะผ่านวุฒิสภา
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงแรง นำโดยกลุ่มยานยนต์ที่ลดลง 2.7% นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ที่ส่งผลให้มีการใช้มาตรการเข้มงวดทั่วยุโรป
เนเธอร์แลนด์ประกาศล็อกดาวน์ธุรกิจที่ไม่สำคัญ ร้านอาหาร บาร์ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 14 มกราคม ปีหน้า ขณะที่อีกหลายประเทศมีแนวโน้มใช้มาตรการเข้มงวดในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีไปจนเข้าสู่ปีใหม่
ตั้งแต่วันจันทร์เฉพาะพลเมืองเยอรมนี ผู้ที่มีถิ่นฐานในเยอรมนี และผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่องเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าเยอรมนีจากสหราชอาณาจักร และผู้ที่เดินทางเข้าทุกคนต้องกักตัว 14 วัน แม้จะฉีดวัคซันแล้ว ขณะที่เดนมาร์ก นอร์เวย์ และฝรั่งเศสก็ใช้มาตรการเข้มงวดเช่นกัน ส่วนออสเตรียจะอนุญาตเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.35 จุด ลดลง 6.55 จุด, -1.38%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,198.03 จุด ลดลง 71.89, -0.99%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,870.10 จุด ลดลง 56.53, -0.82%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,239.67 จุด ลดลง 292.02, -1.88%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.63 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 68.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 71.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว