HoonSmart.com>>ttb analytics ประเมินยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 64 อยู่ที่ 7.65 แสนคัน ลดลง 3.3% จากปีก่อน ปี 65 เพิ่มแตะ 8.7 แสนคัน รถยนต์ไฟฟ้าประเภท Hybrid เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศ 10 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 596,325 คัน หดตัวลง 2.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยรถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัว 2.7% อยู่ที่ 336,936 คันและรถยนต์นั่งหดตัว 1.2% อยู่ที่ 259,389 คัน คาด 2 เดือนสุดท้ายของปี 2564 ยอดขายรถยนต์จะเริ่มฟื้นตัวภายหลังการคลายล็อกดาวน์ในพื้นที่ต่าง ๆ และการกระตุ้นยอดขายจากงานมอเตอร์เอ็กซ์โปช่วงสิ้นปี คาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564 จะอยู่ที่ 7.65 แสนคัน หดตัว 3.3%
หากพิจารณายอดจดทะเบียนรถใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า 10 เดือนของปี 2564 มียอดสะสมกว่า 35,501 คัน แบ่งเป็นรถไฟฟ้าประเภท Hybrid 95% และเป็นรถไฟฟ้าประเภทใช้แบตเตอรี่ BEV 5% ขยายตัว 40% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 เติบโตมากในทุกภูมิภาค สะท้อนความต้องการรถยนต์ที่มีความทันสมัยและประหยัดพลังงาน ซึ่งมาจากกำลังซื้อผู้บริโภคระดับกลางถึงบน
แนวโน้มยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2565 ทยอยฟื้นตัวกลับเข้าสู่ระดับปกติที่ 8.7 แสนคัน หรือขยายตัว 13.8% แบ่งเป็นรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัว 17.6% และรถยนต์นั่งขยายตัว 8.8% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ 2) การส่งออกคาดขยายตัว 4.5% ตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว 3) ดอกเบี้ยในประเทศทรงตัวในระดับต่ำทั้งปี 4) อายุรถยนต์เฉลี่ยบนท้องถนนที่สูง ทำให้เกิดความต้องการเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ (รถยนต์เชิงพาณิชย์ และรถยนต์นั่ง อายุเฉลี่ย 12.3 และ 9.7 ปี) 5) เทคโนโลยีรถยนต์ใหม่ ๆ ที่ค่ายรถยนต์นำเสนอต่อผู้บริโภค เช่น ระบบประหยัดพลังงาน ระบบการขับขี่ด้วยความปลอดภัย ระบบการถอยจอดอัตโนมัติ รวมถึงรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั้ง Hybrid และ BEV ฯลฯ
สำหรับแนวโน้มยอดขายปี 2565 เชิงพื้นที่ ประเมินว่าพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคกลาง จะทยอยปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2564 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคการค้า ภาคบริการ และภาคอุตสาหกรรมกลับมาดำเนินกิจการตามปกติ แต่มีสัญญาณความเสี่ยงด้านราคาสินค้าเกษตรที่ลดลง โดยเฉพาะข้าว ทำให้คาดว่าในพื้นที่เพาะปลูกข้าว ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน อาจได้รับผลกระทบ ทำให้ยอดขายในพื้นที่ดังกล่าวลดลง
ด้านความเสี่ยงของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2565 ที่สำคัญ ได้แก่
1. การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอน หากเข้ามาระบาดในประเทศ อาจส่งผลทำให้เกิดการล็อกดาวน์อีกครั้ง
2. ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยยังคงพึ่งพิงนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก
3. หนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงกว่า 93% ต่อจีดีพี
4. การขาดแคลนชิป เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจะส่งผลต่อยอดการผลิตรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565
5. ความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพื่อควบคุมหนี้เสียในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา