Highlight ประจำสัปดาห์
๐ สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงจากความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ การปรับขึ้นของจํานวนผู้่ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก และการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส
๐ ดัชนี Composite PMI ในเดือน พ.ย. ของประเทศหลักทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นยังอยู่ในเกณฑ์ขยายตัวจากผลผลิตกลับมาเกือบปกติหลังหลายประเทศเริ่มกลับมาเปิดประเทศ
๐ ปธน. Joe Biden เลือกนาย Jerome Powell ให้ดํารงตําแหน่งประธาน FED เป็นสมัยที่ 2 เพื่อจะได้สามารถดําเนินนโยบายการเงินต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๐ ดัชนี Composite PMI ในเดือน พ.ย. ของประเทศหลักทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นยังอยู่ในเกณฑ์ขยายตัวจากผลผลิตกลับมาเกือบปกติหลังหลายประเทศเริ่มกลับมาเปิดประเทศ
๐ สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ มีมติเห็นชอบแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ “Build Back Better” วงเงินรวม 2.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นประมาณราว 11% GDP)
แนะนำลงทุน
หุ้นไทย
จากที่ประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสเกินกว่า 50% แล้ว อีกทั้งครม. อนุมัติจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพิ่มเติม รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของรัฐบาล น่าจะทําให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในระยะนี้ อีกทั้งแผนการเปิดประเทศที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดยกองทุน SCBTHAICG มีสัดส่วนการลงทุนหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองสูง เช่น กลุ่มธนาคาร
อสังหาฯและโครงสร้างพื้นฐาน
ดัชนีราคากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฯ ไทย ยังได้รับอานิสงส์จากแผนการเปิดประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมถึงความคืบหน้าของการฉีดวัคซีน ขณะเดียวกันจํานวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มปรับตัวลดลงและประชาชนสิงคโปร์ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเกินกว่า 90% และเริ่มฉีดมีการฉีด Booster คาดว่าน่าจะกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงกับสภาวะปกติได้อีกครั้งและปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศผ่านโครงการ Vaccinated TravelLane
ทองคำ
แนะนําลงทุนในทองคําเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการกลายพันธุ์ของ COVID-19 ที่มีสายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ B.1.1.529และอุปสงค์ของทองคําในอินเดียสําหรับ Wedding Season ยังมีอยู่ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yield) ยังคงอยู่ในระดับตํ่า
แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน
หุ้นสหรัฐอเมริกา
รายงานการประชุม FOMC เดือน พ.ย. ระบุว่าFED มีความพรอมในการปรับลดวงเงิน QE และเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดอัตราเงินเฟ้อ PCE เดือน ต.ค. เร่งตัวขึ้น 5.0%YoY เท่า ตลาดคาด อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายของผู้บริโภคแข็งแกร่งขึ้นส่งผลดีต่อ GDP ไตรมาส 4 โดยกองทุน SCBS&P500 ยังคงได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 3 และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
หุ้นญี่ปุ่น
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ประมาณ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 10% ของ GDP อีกทั้งยังคงได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ การฉีดวัคซีนที่อยู่ในระดับสูง และการผ่อนคลาย Lockdown ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามตลาดปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่แอฟริกาใต้ B.1.1.529
หุ้นยุโรป
ปรับคําแนะนําจากแนะนําลงทุนเป็นคงนํ้าหนักการลงทุนในหุ้นยุโรป โดยจํานวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ปรับตัวสูงขึ้น ส่ผลให้หลายประเทศเริ่มมีมาตรการ Lockdown ขึ้นอีกครั้ง เพิ่มความกังวลต่อตลาด อย่างไรก็ตามปริมาณผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอยู่ในระดับสูง และดัชนีตัวเลข PMI เบื้องต้นเดือน พ.ย. ยังคงขยายตัวดีกว่าตลาดคาด โดยแนะนําให้ลงทุนกลุ่มหุ้น Growth เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นตํ่ากว่าตลาดโดยรวม
หุ้นจีน A-Shares และ H-Shares
ปญหาด้านการขาดแคลนพลังงาน และความเสี่ยงด้านภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอยู่จากที่บริษัท Evergrande ยังมีการครบกําหนดการชําระดอกเบี้ยอีกเรื่อยๆจนถึงปีหน้า อย่างไรก็ตามธนาคารกลางจีนเริ่มกลับมาอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินต่อเนื่อง น่าจะช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้นจีนลง
แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน
หุ้นอินเดีย
ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นอินเดียค่อนข้างผันผวนจากข่าวการลดสภาพคล่องในระบบการเงิน อีกทั้ง Valuation ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามตลาดอินเดียยังได้รับปจจัยบวกจากการกลับมาเปิดเมือง และตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับตํ่า ทําให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถกลับมาดําเนินได้เกือบเหมือนภาวะปกติ
น้ำมัน
จํานวนแท่นขุดเจาะปรับตัวสูงขึ้นโดยเพิ่มสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตามจํานวนแท่นขุดเจาะยังคงอยู่ในระดับตํ่ากว่าก่อนสถานการณ์แพร่ระบาด Covid-19ในขณะที่สหรัฐฯ ประกาศปล่อยนํ้ามันออกจากคลัง อย่างไรก็ตามปริมาณการปล่อยนํ้ามันดังกล่าวอยู่ในระดับตํ่าโดยคาดว่าจะไม่กระทบต่อราคานํ้ามัน ด้านประเด็นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 ในยุโรป และความกังวลด้านการแพร่ระบายเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่แอฟริกาใต้ B.1.1.529 อาจนําไปสู่การ Lockdown ส่งผลต่อปริมาณความต้องการใช้นํ้ามัน