BROOK เข้าลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 1.29 พันลบ. เร่งเดินหน้า ‘ขุดเหรียญ’

HoonSmart.com>> “บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป” เปิดข้อมูลลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วกว่า 1,291 ล้านบาท เข้าลงทุน 4 เหรียญหลัก Bitcoin – Ethereum – Binance และ Stable Coin รวมกัน 60% ส่วนที่เหลือลงทุนเหรียญอื่นๆ ลุยเดินหน้าโปรเจกต์นำร่อง ’เปิดเหมืองขุดเหรียญ’ ตามแผนงาน พร้อมเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น 28 ต.ค.นี้ หลัง “ดิสคัฟเวอร์ แมเนจเม้นท์” ถอนตัวจากตำแหน่งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ

นายวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทฯ ผู้บริหารและคณะกรรมการได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการลงทุน นโยบายทางบัญชีและผลกระทบงบการเงินสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมาอย่าต่อเนื่อง ซึ่งกรอบการลงทุนได้กำหนดโดยคณะกรรมการบริษัทในการตัดสินใจเพิ่มหรือลดตามความเหมาะสมของสถานการณ์นั้นๆได้ ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่ 29 มี.ค. จนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ 11 ต.ค.2564 มีมูลค่ารวมกว่า 1,291 ล้านบาท เทียบเป็นมูลค่าตลาดของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ลงทุนไปแล้วอยู่ที่ 36.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาตลาดอยู่ที่ 41.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงกว่าลงทุนจริง

ด้านคณะกรรมการยังไม่ได้ตัดสินใจขายเงินลงทุนใดๆ เนื่องจากมีหลักในการลงทุนว่าจะต้องไม่เป็นรูปแบบ Trading Activity หรือการซื้อๆขายๆทุกวันหรือทุกสัปดาห์

นายวริศ กล่าวว่า กลยุทธ์การจัดสรรพอร์ตลงทุน บริษัทแบ่งสัดส่วนออกเป็น 60 : 40 โดยสัดส่วน 60% จะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Bitcoin, Ethereum, Binance และ Stable Coin โดย Bitcoin มีมูลค่าตามราคาตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นผู้นำในตลาดคริปโทเคอเรนซี รวมถึงได้รับการยอมรับในระดับนักลงทุนสถาบัน Bitcoin ถือว่าได้รับการทดสอบมานานกว่า 10 ปี สำหรับ Ethereum นั้น เป็นเหรียญที่มีมูลค่าตามราคาตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับที่สอง แต่เป็นผู้นำในด้านสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) และมีมานานกว่า 7 ปี

สำหรับ Binance เป็นเหรียญที่มีมูลค่าตามราคาตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ Top 10 แต่เป็นผู้นำในด้านการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (Centralize Exchange) โดย Binance มีบัญชีที่ลงทะเบียนด้วยมากกว่า 70 ล้านบัญชี นำมาซึ่งมูลค่าเครือข่ายที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นธีมหลักของการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทสุดท้ายคือ Stable Coin ซึ่งถือเป็นการลงทุนตามเงิน Fiat ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าเหรียญอื่นๆ ส่วนการลงทุนอีก 40% ที่เหลือจะเป็นเหรียญอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งเหรียญเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นเหรียญที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจากระบบนิเวศที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนาและมูลค่าตามราคาตลาดที่น้อยกว่ากลุ่มแรก

“อย่างไรก็ตามการลงทุนในเหรียญเหล่านี้เป็นส่วนที่จำเป็นในการดำเนินการในระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าจะเติบโตไปด้วยกันในฐานะสินทรัพย์ประเภทใหม่ ดังนั้นบริษัทฯ จึงตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายประเภทมากขึ้นเพื่อติดตามโครงการใหม่ๆ ไปตามกรอบแนวทางความเสี่ยง” นายวริศ กล่าว

นายวริศ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการติดตามพอร์ตภายหลังการเข้าลงทุน บริษัทไม่ได้ใช้หลักมาตรวัดเพื่อทำการวิเคราะห์ในเชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) แต่จะอยู่ในรูปแบบการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด (Closely monitoring) หากปรากฏว่ามีข้อมูลข่าวสารที่ทางแผนกการลงทุนพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นปัจจัยที่มีความเป็นวิกฤติ (critical point) เช่น ระบบ Bitcoin หรือ Blockchain ถูกโจมตีก่อให้เกิดความล้มเหลวในเทคโนโลยี หรือมีเงินจำนวนมหาศาลถูกขโมยออกจากระบบ ในทางกลับกันหากเป็นปัจจัยบวก เช่น การค้นพบเทคโนโลยีใหม่หรือการต่อยอดเทคโนโลยีเดิมซึ่งประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดไว้ แผนกการลงทุนก็จะใช้ดุลยพินิจในการขอเรียกประชุมคณะกรรมการการลงทุนเพื่อรายงานสถานการณ์และข้อมูลเพื่อให้ความเข้าใจเพิ่มเติมถึงความผันผวนว่าสามารถเกิดจากอะไรได้บ้าง เพื่อให้ทางคณะกรรมการการลงทุนได้ดำเนินการตัดสินใจต่อไปว่าควรจะทำอย่างไร

ขณะที่การลงทุนโปรเจกต์ใหม่ในระบบคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับเครือข่ายสินทรัพย์ดิจิทัล มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นการวิจัยและพัฒนา (R&D) สร้าง Knowledge Base ตลอดจนสร้างแบรนด์ในฐานะผู้ที่มีข้อมูลเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุมในส่วนต่างๆ (Integrated Knowledge Base) ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการไปบางส่วนแล้ว ซึ่งหากสภาวะไม่เหมาะสม อาจจะมีการลงทุนไม่ถึงตามจำนวน 70 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

ด้านบริษัทฯ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอเลื่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2564 จากเดิมกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29 ต.ค.2564 เพื่อเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาการทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักตามที่เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2564 เนื่องจากบริษัท ดิสคัฟเวอร์ แมเนจเม้นท์ จํากัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ) เพื่อให้ความเห็นแก่การทำรายการแก่ผู้ถือหุ้น ในการเตรียมการจัดประชุมผู้ถือหุ้นน้ัน ได้ทำหนังสือถอนตัวจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้กับบริษัทฯ ณ วันที่ 11 ต.ค.2564 โดยได้แจ้งเหตุผลว่ามีหลายประเด็นที่บริษัทดิสคัฟเวอร์ฯ อาจไม่มีประสบการณ์และความสามารถเพียงพอในการให้ความเห็นถึงความเหมาะสมในการเข้าทารายการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลในครั้งนี้ให้กับบริษัท

อย่างไรก็ตามด้วยระยะเวลาการทำงานที่จำกัด ดิสคัฟเวอร์จึงไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ทันเวลา ดังนั้นบริษัทฯ จึงไม่สามารถจัดการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระรายใหม่ได้ทันเวลา

อ่านข่าว

ก.ล.ต.เตือนประชาชนระวังใช้บริการ “ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล” ไม่มีไลเซ่นส์