EE ทุ่ม 650 ลบ. ซื้อหุ้น “แคนนาบิซ เวย์” สัดส่วน 80% ลุยธุรกิจกัญชง

HoonSmart.com>> บอร์ด “อีเทอเนิล เอนเนอยี” ไฟเขียวซื้อหุ้น “แคนนาบิซ เวย์” สัดส่วน 80% มูลค่า 650 ล้านบาท รุกธุรกิจค้าและผลิตกัญชง เพิ่มรายได้ กระจายความเสี่ยงในการลงทุน

บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วันที่ 29 ก.ย.2564 อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด (CW)  ประกอบธุรกิจค้าและผลิตกัญชง จำนวน 800,000 หุ้น สัดส่วน 80.00% ของหุ้นทั้งหมด จากบริษัท ไบโอ เมดิคอล กรุ๊ป   โดยบริษัทฯ ตกลงจะชำระค่าตอบแทนให้แก่ผู้ขายในวันที่ธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์จำนวน 650 ล้านบาท สำหรับแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ

ปัจจุบัน CW ประกอบธุรกิจหลักคือการผลิตกัญชงโดยวิธีการปลูกในโรงเรือน (Greenhouse) และกลางแจ้ง (Outdoor) ในที่ดินที่ CW มีกรรมสิทธิ์ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลคลองเรือ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรีโดยมีพื้นที่แปลงเพาะปลูกประมาณ 9,000 ตารางเมตร สำหรับการปลูกในโรงเรือน และประมาณ 15 ไร่ สำหรับการปลูกกลางแจ้ง ณ ปัจจุบัน CW อยู่ในระหว่างการขอรับใบอนุญาตผลิต (ปลูก) ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง โดย CW คาดว่าน่าจะได้รับใบอนุญาตดังกล่าวภายในเดือนพ.ย.2564

สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทนของธุรกรรม มาจากราคาซื้อขายที่บริษัทฯ และผู้ขายได้เจรจาตกลงร่วมกัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณากำหนดราคาซื้อขายด้วยวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow Approach) โดยอ้างอิงสมมติฐานจากการตรวจสอบสถานะของกิจการ (Due Diligence) ที่ดำเนินการโดย บริษัท แคปปิตอล แอ๊ดแวนเทจ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ ทั้งนี้มูลค่ายุติธรรมในสัดส่วนร้อยละ 100 ของ CW ตามที่ประเมินได้จากวิธีดังกล่าวอยู่ในช่วง 584.94 – 918.11 ล้านบาท และมูลค่ายุติธรรมในสัดส่วน 80% ของ CW อยู่ในช่วง 467.96 – 734.49 ล้านบาท

บริษัทฯ คาดว่าการเข้าทำธุรกรรมจะทำให้บริษัทฯ เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และผลตอบแทนในระยะยาว เนื่องจากธุรกิจกัญชงถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ผ่านมา อีกทั้งมีโอกาสในการเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต ซึ่งจะสามารถทดแทนรายได้หลักของบริษัทฯ ที่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัท เอสเอสยูที   ซึ่งบริษัทฯ ได้จำหน่ายไปภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมที่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564

นอกจากนี้เป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนของบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพสำหรับการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนและประโยชน์ให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ในระยะยาว