HoonSmart.com>>เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ ร่วมมือ MyCloudFulfillment รุกธุรกิจ ‘คลังสินค้า Fulfillment’ รองรับผู้ค้าขายออนไลน์ โดยมีซอฟต์แวร์ที่เชื่อมต่อกับทุกแฟลตฟอร์มออนไลน์ คาดปี 66 สามารถสร้างรายได้แตะ 100 ล้านบาท พร้อมขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) เปิดเผยว่า ตามแผนโรดแมปกลยุทธ์ 5 ปี สู่เป้ายอดขาย 10,000 ล้าน ต้องการรุกขยายฐานธุรกิจจาก B2B สู่ B2C มากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีโอกาสเติบโตอีกมาก บริษัทฯ มองเห็นเป็นโอกาสในการรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่โดยร่วมมือกับ MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์อันดับ 1 เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขายสินค้าทางออนไลน์และผู้ประกอบการที่มีช่องทางจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ช่วยให้การจัดการออเดอร์หลังบ้านเป็นเรื่องง่ายและเป็นส่วนสำคัญในซัพพลายเชนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กล่าวได้ว่าเป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมาเชื่อมเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มสปีดในให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ MyCloudFulfillment เป็นสตาร์ตอัพไทยผู้ให้บริการคลังสินค้า Fulfillment ชั้นนำในประเทศ บริการเก็บ แพ็ค ส่งสินค้าครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 6 ปี มีซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการ Startup Thailand 2017 จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และรองชนะเลิศจากโครงการ Digital Ventures ของธนาคารไทยพาณิชย์ อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 2 startup ของไทย ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น Forbes Asia 100 to watch ในปีนี้ อีกด้วย
ความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทำสัญญากับ MyCloudFulfillment เพื่อให้เช่าคลังสินค้า JWD Fulfillment ย่านมีนบุรี พื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ส่วนระบบหลังบ้านสำหรับจัดการร้านค้าออนไลน์จะถูกดำเนินการโดย MyCloudFulfillment ซึ่งมีความชำนาญและเข้าใจผู้ประกอบการที่ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นอย่างดี เช่น ระบบจัดการออเดอร์, ตรวจสอบสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์, การวิเคราะห์ดาต้าเพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจเกี่ยวกับธุรกิจและเพิ่มโอกาสในการขาย เป็นต้น โดยสามารถรอบรับออเดอร์สูงสุดวันละ 30,000 หรือ 1,000,000 ออเดอร์ ต่อเดือน
“เราเปิดให้บริการคลังสินค้า Fulfillment แห่งแรกในย่านมีนบุรี เมื่อวันที่ 1 กันยายน ปัจจุบันได้เริ่มนำเสนอบริการแก่ฐานลูกค้า B2B ปัจจุบันของ JWD แล้ว โดยบริษัทฯ จะมีรายได้ 2 ส่วนคือ รายได้จากการให้เช่าคลังสินค้าแก่ MyCloud Fulfillment และรายได้จากการคิดค่าบริการ Fulfillment จากลูกค้า คาดว่าในปี 2565 ธุรกิจ คลังสินค้า Fulfillment จะสร้างรายได้ 50 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการใช้บริการ 50% และในปี 2566 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นแตะ 100 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการใช้บริการ 100%” นายชวนินทร์ กล่าว
การร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายบริษัทฯ ที่มองโอกาสลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพ สามารถต่อยอดกับธุรกิจเดิมของ JWD โดยมองว่า MyCloudFulfillment เป็นสตาร์ตอัพไทยอันดับต้นๆ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินธุรกิจคลังสินค้า Fulfillment ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนร่วมมือทางธุรกิจในระยะยาวกับ MyCloudFulfillment ในการวางแผนขยายพื้นที่ให้บริการ ขยายประเภทสู่ Cold Chain Fulfillment ทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน
ด้าน นายนิธิ สัจจทิพวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MyCloudFulfillment บริษัท อี-เอ็มพาวเวอร์เมนท์ กล่าวว่า การที่ JWD เป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่มีประสบการณ์ช่วยเสริมศัพยภาพให้ MyCloudFulfillment ในการขยายพื้นที่คลังสินค้า ขยายฐานลูกค้าและยกระดับการให้บริการ Fulfillment แบบครบวงจรครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ผมเชื่อมั่นว่าการผสานจุดแกร่งของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด