ดาวโจนส์ปิดลบ 68 จุด กังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลบ 68 จุด กังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจจากระบาดเดลตา ความไม่แน่นอนเฟดดึงมาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายกลับ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ลบรอผลประชุม ECB ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 8 กันยายน 2564 ปิดที่ 35,031.07 จุด ลดลง 68.93 จุด หรือ 0.20% จากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสเดลตา รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเวลาที่ธนาคารกลาง (เฟด) จะดึงมาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายกลับ

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,514.07 จุด ลดลง 5.96 จุด, -0.13%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,286.64 จุด ลดลง 87.69 จุด, -0.57%

นักลงทุนไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องหรือไม่ จึงเลี่ยงการลงทุนยาว และระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนสิงหาคมต่ำกว่าคาด และยังกังวลว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการทางการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่นำมาใช้ในปีที่แล้วเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัส

นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 กันยายนนี้

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ให้สัมภาษณ์ไฟแนนเชียลไทมส์ ว่า เฟดควรเดินหน้าปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร แม้การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมชะลอตัวลงก็ตาม

กระทรวงแรงงานรายงานผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 10.9 ล้านตำแหน่ง สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บบันทึกข้อมูลเดือนธันวาคม 2000 และสูงกว่า 9.9 ล้านตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด และการเปิดรับสมัครงานสูงกว่าการตกงานกว่า 2 ล้านตำแหน่ง เนื่องจากธุรกิจประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน

รายงานภาวะเศรษฐกิจของเฟด(Beige Book)ที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ ระบุว่า การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยรวมถอยหลังเล็กน้อยเป็นการในเดือนสิงหาคม มาเติบโตปานกลาง จากความกังวลว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสที่กลับมาสูงตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมจะกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่มาจากการที่คนไม่รับประทานอาหารที่ร้าน ไม่เดินทาง และไม่ท่องเที่ยว เพราะกังวลต่อความปลอดภัย ขณะที่ภาคธุรกิจประสบกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเพราะการขาดแคลนสินค้าและมีคสามเป็นไปได้ที่จะผ่องถ่ายต้นทุนไปยังผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม ยูบีเอสได้ปรับเป้าหมายสิ้นปี 2022ของดัชนี S&P 500 ขึ้นเป็น 4,850 จุดจาก4,650 จุดเพราะยังมีปัจจัยหนุน

หุ้นคอยน์เบส โกลบอล (Coinbase Global) ลดลง 3.23% หลังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ประกาศเตือนว่า SEC อาจดำเนินคดีกับบริษัทคอยน์เบส โกลบอล

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มยานยนต์ที่ลดลง 2.2% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนจับการประชุมของ

ธนาคารกลางสหภาพยุโรป( European Central Bank:ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ECB มีท่าทีปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น หลังจากเงินเฟ้อและดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.87 จุด ลดลง 5.00 จุด, -1.06%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ ที่ 7,095.53 จุด ลดลง 53.84 จุด, -0.75%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,668.89 จุด ลดลง 57.18 จุด, -0.85%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,610.28 จุด ลดลง 232.81 จุด, -1.47%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 69.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 72.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล